“เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ยื่นอีก! กกต.สอบเพิ่มอีก 13 ราย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ เข้าข่ายถือหุ้นสื่อ
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. เปิดเผยว่า ตนได้รับหนังสือจาก กกต.เรียกไปให้ข้อมูลที่ร้องผู้สมัคร 4 รายในวันที่ 10 พ.ค. โดยบางรายมีข้อมูลใหม่ที่ระบุวัตถุประสงค์ทำสื่ออย่างชัดเจนและยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่จนมาถึงปัจจุบันด้วย
และตนมีข้อมูลจะไปยื่นเพิ่มเติมอีก 13 ราย ที่พบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเกี่ยวกับการถือหุ้นในกิจการที่มีวัตถุประสงค์ออกหนังสือพิมพ์หรือผลิตสื่อต่างๆ ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของสองพรรคการเมือง คือ
พรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย 7 ราย
คือ 1.น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ กทม.เขต 6 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ทาโร่ทาเลนท์ จำกัด 2.น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ กทม.เขต 7 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท รางวัลไทย จำกัด 3.นายสิระ เจนจาคะ กทม.เขต 9 มีชื่อเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด ไฮ – เทค ออดิโอ 4.น.ส.เกศกานดา อินช่วย กทม.เขต 16 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ก้าวไกล ครีเอท จำกัด 5.นายศันสนะ สุริยะโยธิน กทม.เขต 22 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ที อี พี พี จำกัด 6.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร PL#18 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท วาย.เอ็ม.จอมเทียน จำกัด 7.นายยุทธนา โพธสุธน PL#21 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท บ้านไทย รีสอร์ท จำกัด
พรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย 6 ราย
คือ 1.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช PL#5 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท วัฒนโสภณพนิช จำกัด 2.นายเกียรติ สิทธีอมร PL#13 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท โปร เอ็น โฮลดิ้งส์ จำกัด 3.นายวีระชัย วีระเมธีกุล PL#19 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ศิริเมธีกุล จำกัด 4.นายประกอบ จิรกิติ PL#55 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท พี แอนด์ วี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด 5.นายสัญชัย อินทรสูต PL#60 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท นครสวรรค์สหธุรกิจ จำกัด 6.ร้อยตรีวิจิตร อยู่สุภาพ PL#67 มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท นครสวรรค์สหธุรกิจ จำกัด (บริษัทเดียวกับ PL#60)
ทั้งนี้ หากยึดตามคำวินิจฉัยในคำสั่งศาลฎีกาที่ 1356/2562 โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ที.เอ็ม.อินเตอร์เนชั่นแนล อิมพอร์ท เอ็กซ์พอร์ท จำกัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์ด้วย
ดังนี้ ผู้ร้องจึงเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (3) และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) ที่ผู้ร้องอ้างข้อเท็จจริงว่าแม้มีวัตถุประสงค์ดังกล่าวแต่บริษัทไม่ได้ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์เลย ฟังไม่ขึ้น…”
ไม่พลาดทุกข่าวสาร แอดไลน์ข่าวสด 
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคใด จึงมีเวลาและมีข้อมูลที่ยังต้องตรวจสอบอีกมาก อีกทั้งคนของแต่ละพรรคการเมืองก็มีการส่งข้อมูลมาให้ตรวจสอบอยู่เรื่อยๆ คือต่างฝ่ายต่างพรรคต่างก็ร้องกันไปมาโดยส่งข้อมูลให้ตนทราบด้วย กรณีใดที่ตนเห็นว่าเข้าข่ายก็จะยื่นร้อง กกต.ต่อไป ด้วยเหตุนี้ตนจึงจะไปยื่นหนังสือร้องให้ กกต.ตรวจสอบผู้สมัคร ส.ส.เพิ่มเติมอีก 13 ราย ที่ กกต.ศูนย์ราชการอาคาร B ในวันที่ 10 พ.ค. เวลา 09.45 น. ก่อนให้ถ้อยคำต่อไปในเวลา 10.00 น.
