“พปชร.” รั้งโควต้า “รมต.” 15 ที่นั่ง “อุตตม” ขุนคลัง “เสี่ยตั๊น” ควบ “มท.1” หึ่ง “บิ๊กตู่” ดัน เพื่อนเตรียมทหาร ฟาก “ภท.” ล็อกเป้า “กระทรวงหมอ-คมนาคม” ปชป. หวัง “ศึกษา-เกษตรฯ” ชทพ. จ่อคว้า “ทรัพยากรฯ” ชพน.-รปช. เล็ง “พลังงาน”
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงที่พรรคจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ยังมีข้อกังวลที่พรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่มีหัวหน้าพรรค ยังต้องจับตาว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีมติออกมาอย่างไร รวมถึงคะแนนเสียง ส.ส. 52 เสียงนั้น จะมีเอกภาพโหวตไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่
รายงานว่า พรรค พปชร.ได้จัดสรรโควตารัฐมนตรีในส่วนของตัวเองไว้ 13-15 ที่นั่ง แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 4 อดีตรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค คาดว่าจะดำรงตำแหน่งกระทรวงการคลัง , นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กระทรวงพาณิชย์ , นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม
ส่วนกลุ่มอดีตแกนนำ กปปส. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค กระทรวงมหาดไทย , นายพุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ กทม. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ส่วนกลุ่มสามมิตร ได้โควต้า 4 ตำแหน่ง คือ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อยู่ระหว่างตัดสินใจจะรับตำแหน่งเอง หรือให้นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นหลานชาย , นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ซึ่งยังไม่ชัดเจนจะนั่งกระทรวงใด และอีกหนึ่งคนเป็นโควต้าของกลุ่มกำแพงเพชร ที่มีแกนนำคือนายวราเทพ รัตนากร
นอกจากนั้น มีความเป็นไปได้ว่านายอิทธิพล คุณปลื้ม ผู้อำนวยการพรรค ดำรงตำแหน่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึง นายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่คาดว่าจะมีตำแหน่งรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็มีชื่ออยู่ในข่ายเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ในส่วนของโควต้ารัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ ล่าสุด มีรายงานเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประยุทธ์ วางตัว พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อนร่วมรุ่นพล.อ.ประยุทธ์ เตรียมทหารรุ่น12 ซึ่งเป็นคนที่ทำงานในภาคใต้ให้พปชร. เป็นรัฐมนตรีด้วย แต่ยังไม่ชัดเจนว่ากระทรวงใด
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย อาจได้รับการจัดสรรโควตารัฐมนตรี 7 ตำแหน่ง แต่ยังมีความไม่ลงตัวในการเจรจากระทรวงใหญ่ โดยมีกระแสข่าวว่าไม่พอใจในการข้อเสนอพลังประชารัฐต้องการเก็บกระทรวงเกรดเอไว้พรรคการเมืองเดียว โดยภูมิใจไทย ต้องการกระทรวงมหาดไทย คมนาคม และสาธารณสุข ด้านบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค , นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค , นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค , นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค , นายนภินทร ศรีสรรพางค์ และนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร แกนนำพรรค
ด้านพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการ กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรค , นายกรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรค , นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรค , นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา , นายอัศวิน วิภูศิริ รักษาการรองหัวหน้าพรรค , นายจุติ ไกรฤกษ์ รักษาการเลขาธิการพรรค
อย่างไรก็ตาม กระทรวงหลักที่พรรคพลังประชารัฐเองต้องการใช้ขับเคลื่อนนโยบาย จึงอาจไม่สามารถแบ่งให้พรรคร่วมรัฐบาลได้ โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่พรรคพลังประชารัฐ ต้องการเดินหน้าโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก ซึ่งอาจขัดแย้งกับนโยบายประกันราคาของประชาธิปัตย์
ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา บุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีมี 2 คน คือ นางกัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค และ นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการยุทธศศาสตร์พรรค โดยแสดงความต้องการไปอยู่ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคชาติพัฒนาที่ได้จับมือกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย ยังคงพยายามรวบรวมเสียงพรรคการเมืองขนาดเล็ก เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรอง ในการเจรจาขอกระทรวงพลังงาน
ทั้งนี้ ในช่วงเย็น วันที่ 8 พ.ค. กลุ่มสามมิตรได้นัดรวมตัวกันเป็นการภายในที่ ที่สนามซัมมิท วินด์ มิลล์ กอล์ฟคลับ โดยมี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐกว่า 30 คนเข้าร่วมด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ขอบคุณและแสดงความยินดีที่ทุกคนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยไม่มีการพูดถึงเรื่องการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีภายในงานดังกล่าว
