“พิชัย” ชี้ ศก.ไทยทรุดหนัก ติงอย่าอ้าง ศก.โลกตกต่ำ ย้ำไทยตกต่ำแน่หาก “บิ๊กตู่” ยังเป็นนายกฯ อีก
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาสแรกเหลือเพียง 2.8 % เท่านั้น ซึ่งทรุดหนักมาก ต่ำกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ จะทำให้เศรษฐกิจไทยทั้งปี 2562 นี้ จะขยายตัวได้ต่ำกว่า 3.5% อย่างแน่นอน ซึ่งต่ำกว่า 4% ที่รัฐบาลโม้ไว้มาก และอาจจะต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี ก็เป็นได้
อีกทั้งจะขยายตัวน้อยที่สุดในอาเซียนอีกปีหนึ่ง การที่รัฐบาลจะอ้างว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ และต้องเผชิญกับสงครามการค้า ก็อาจจะไม่ถูกต้องนัก เพราะหากมองย้อนหลัง 5 ปีจะพบว่าในขณะที่เศรษฐกิจโลกดี ประเทศเพื่อนบ้านขยายตัว 6-9 % ประเทศไทยก็โตเฉลี่ยได้เพียง 2-3 % เท่านั้น แสดงถึงปัญหาการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลและการขาดความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ
ซึ่งการลงทุนจากต่างประเทศลดลงมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของการส่งออก ทั้งๆ ที่มีการเลือกตั้งแล้วการลงทุนก็ยังไม่ฟื้น แถมยังลดลงอีก จากการพูดคุยกับสื่อต่างประเทศ รวมถึงนักการทูตประเทศหลักหลายประเทศ ต่างก็เห็นตรงกันและแสดงความกังวลกับการเลือกตั้งของไทยที่แปลกประหลาด เหมือนกับพยายามทำทุกวิถีทาง และใช้ทุกองค์กรแบบบิดเบี้ยวเพื่อจะจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายตนให้ได้
อีกทั้งยังยึดติดกับแนวคิดแบบเผด็จการ ทำให้เป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองของไทย และเชื่อว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ก็จะไม่สามารถฟื้นความมั่นใจได้ เศรษฐกิจไทยก็จะตกต่ำไปอีกนาน
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ในวิกฤติภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ก็ยังมีโอกาสที่การลงทุนจากจีน ญี่ปุ่น และชาติตะวันตกจะหันมาลงทุนในประเทศที่สามมากขึ้น เห็นได้จากการที่เวียดนามได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้อย่างเต็มที่
โดยใน 5 ปีนี้การลงทุนจากต่างประเทศในเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างมากทุกปีมาตลอด ในขณะที่การลงทุนในไทยกลับเหือดหาย ทั้งๆ ที่โครงสร้างพื้นฐานของไทยดีกว่าเวียดนาม และนักลงทุนต่างประเทศอยากลงทุนในประเทศไทยมากกว่า แต่เนื่องจากภาวะการเมืองของไทยไม่เอื้ออำนวย คงเป็นตามที่อาจารย์วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกฯ ได้เตือนไว้ว่าอเมริกาและยุโรป รังเกียจระบอบเผด็จการทหาร หรือแม้แต่ระบอบที่สืบทอดอำนาจจากเผด็จการทหาร
ดังนั้น โอกาสที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากสงครามการค้าจึงแทบไม่มีเลย หากพล.อ.ประยุทธ์ ยังกลับมาเป็นนายกฯ อีก ประเทศไทยจะยิ่งล้าหลังและตกต่ำต่อไปอีกอย่างแน่นอน ไม่ต่างอะไรกับ 5 ปีที่ผ่านมา ที่ทรุดลงต่อเนื่องมาโดยตลอด ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อนกันอย่างมาก แต่ผู้นำกลับยังคิดว่าตัวเองทำได้ดี เหมือนกับหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ หากจะทำให้ประเทศไทยพัฒนาแบบก้าวหน้า ประเทศไทยจะต้องปรับแนวคิดและวิธีการทั้งหมด ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ คงไม่มีความสามารถจะทำได้
