วิษณุ เผย “นายกฯ” ไม่ได้กำชับ รมต.เคลียร์งาน ก่อนมีรัฐบาลใหม่เดือนมิ.ย.

วันที่ 23 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงช่วงสัปดาห์สุดท้ายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อนมีรัฐบาลใหม่เดือนมิ.ย.นี้ ว่า นายกฯไม่ได้กำชับเรื่องใดเป็นพิเศษ เพียงแต่ว่าผู้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่แต่ละคนต้องรู้ว่าอะไรที่ตัวเองจะสามารถเคลียร์ได้ อย่าให้มีปัญหาเรื้อรังไปถึงรัฐบาลหน้า

แต่ถ้าเรื่องใดที่ไม่สามารถเคลียร์ได้จริงๆ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร หรือไม่เช่นนั้นควรจะทำรายงานสรุปในสิ่งที่ตนเองได้ทำมา ซึ่งตนเองยังได้สรุปบางเรื่องที่ได้ทำกราบเรียนต่อนายกฯไป จากนั้นรัฐบาลใหม่จะทำอย่างไรต่อก็แล้วแต่ สิ่งนี้เป็นเรื่องของรัฐมนตรีแต่ละคนที่จะต้องทำ

ซึ่งในรัฐบาลนี้ถือว่ามีเวลาที่จะเคลียร์งานในส่วนที่ตนรับผิดชอบ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ในสมัยก่อนสิ่งที่อยากเห็นคือรัฐมนตรีเก่าส่งมอบงานให้รัฐมนตรีใหม่ มีความพยายามจะทำ แต่ไม่สามารถที่จะทำได้ และครั้งนี้ก็มีรัฐมนตรีออกไปก่อน 15 คน แต่ก็ยังเหลือรัฐมนตรีที่ตั้งเข้าไปรักษาการในตำแหน่งที่ว่าง ยังสามารถส่งมอบงานกันได้

เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไรกับรัฐบาลที่รัฐประหารมาและสามารถอยู่บริหารประเทศได้นานถึง 5 ปี นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้คนอื่นวิเคราะห์ ชอบใจหรือไม่ชอบใจแล้วแต่ทัศนะแต่ละคน ซึ่งทุกคนเป็นประจักษ์พยานเหตุการณ์บ้านเมืองพร้อมๆกันทั้งนั้น ฝ่ายหนึ่งผู้ปฏิบัติ อีกฝ่ายผู้รับผลจากการปฏิบัติ ฉะนั้นจะชื่นชม ชื่นชอบ ชิงชังก็แล้วแต่

ไทม์ไลน์การเมือง พ.ค.นี้ได้นายกฯใหม่

นายวิษณุ กล่าวถึงไทม์ไลน์การจัดตั้งรัฐบาล หลังมีพิธีเปิดสภาอย่างเป็นทางการ ว่า เมื่อได้ตัวประธานวุฒิสภา ประธานสภา และมีการโปรดเกล้าฯลงมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายกรัฐมนตรีคนใหม่น่าจะได้ในเดือนพ.ค.นี้ แต่กว่าจะตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ จะต้องมีการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อน และต้องมีการแถลงนโยบายการดำเนินงานต่อรัฐสภาด้วย ก็จะประมาณเดือน มิ.ย.

ทั้งนี้ เมื่อมีการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก็ทำให้รัฐบาลเก่าพ้นจากตำแหน่ง แต่รัฐบาลใหม่อาจจะยังทำงานยาก เพราะยังไม่ได้มีการแถลงนโยบาย ซึ่งจะต้องมีการแถลงภายใน 15 วันหลังการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน

ส่วนการจัดทำนโยบายเพื่อแถลงต่อรัฐสภา ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่จะใช้เวลาแค่ไหน ยิ่งเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค ก็ต้องพยายามนำเอานโยบายของพรรคอื่นๆเข้ามาด้วย จะเอาแต่นโยบายของพรรคแกนนำอย่างเดียวคงไม่มีใครยอม ซึ่งพรรคที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลจะต้องไปว่ากันเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ได้กลับมาเป็นนายกฯ จะเรียกว่าเป็นนายกฯคนที่ 30 หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อพูดถึงคน วันนี้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ถ้าได้กลับมาอีกก็ถือว่าเป็นนายกฯคนที่ 29

อย่างกรณีของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกฯหลายครั้ง ก็ยังนับ 1 คน เช่นเดียวกับนายกฯในอดีตคนอื่นๆ ก็ไม่ได้เป็นครั้งเดียวด้วยเช่นกัน ส่วนพล.อ.ประยุทธ์จะได้เป็นอีกรอบหรือไม่ ตนไม่รู้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน