ป.ป.ช. ยกปาฐกถาพิเศษ “ป๋าเปรม” อย่าให้คนไม่ดีมาปล้นชาติ! แนะนำเจตนารมณ์ไปใช้สกัดคนโกง อย่าปล่อยให้ห่างหายตามกาลเวลา เผย 10 วิธีสร้างความโปร่งใส

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ขอแสดงความเสียใจและน้อมรำลึกถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ถึงแก่อสัญกรรม นับว่าเป็นวันที่คนไทยสูญเสียบุคคลสำคัญของชาติไทย ซึ่งท่านเป็นต้นแบบของคนดี มีความซื่อสัตย์ และปลุกจิตสำนึกคนไทยให้รังเกียจและยับยั้งการโกงเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน

นายวรวิทย์ กล่าวต่อว่า จะเห็นได้จากการที่ พล.อ.เปรม ได้กล่าวตอนหนึ่งในงานปาฐกถาพิเศษ “ประเทศไทย…โปร่งใสได้อย่างไร” เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2558 เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ถึงเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศว่า การคอร์รัปชันเป็นสิ่งที่ตนเกลียดที่สุด เพราะเป็นการปล้นชาติ ดังนั้น หากจะขจัดปัญหานี้ให้หมดไป ต้องไม่ยอมให้คนไม่ดีมานั่งปล้นชาติทุกวัน ต้องหาทางกำจัด ตัวเวร ตัวน่ารังเกียจให้หมดจากประเทศ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนวิธีการทำให้ประเทศไทยโปร่งใส คนไทยต้องร่วมมือกันอย่างจริงใจและจริงจัง มีการแสดงออกชัดเจนตรงไปตรงมา มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ตั้งอยู่บนความสุจริต สามารถตรวจสอบและชี้แจงได้ ด้วย 10 วิธีสร้างความโปร่งใส ได้แก่ 1.ต้องเริ่มที่ตัวเรา ตัวเราต้องโปร่งใสก่อนถึงจะไปทำให้ประเทศโปร่งใสได้ ต้องประพฤติปฏิบัติตน ให้เป็นตัวอย่างที่ดี ผู้บังคับบัญชาต้องประพฤติปฏิบัติเป็นตัวอย่างที่ดีต่อผู้ใต้บังคับบัญชา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมี ในตัวของเราที่จะไปทำหน้าที่ปราบการปล้นชาติคือ คุณธรรมและจริยธรรม สองคำนี้คนพูดกันบ่อย แต่ไม่ค่อยมั่นใจเลยว่า เข้าใจอย่างที่เราอยากให้เขาเข้าใจหรือไม่ ซึ่งถ้าเขาเข้าใจได้โดยมีคุณธรรมและจริยธรรมก็จะไม่โกง

2.ต้องหยุดและเลิกระบบอุปถัมภ์ นำระบบคุณธรรมมาใช้แทน ต้องไม่ช่วยเหลือคนโกง ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เป็นพ่อแม่ ลูก เมีย ญาติ คงจะยากแต่คิดว่าจำเป็นและสำคัญ ต้องไม่ช่วยเหลือคนโกง 3.ต้องเรียกคนที่ทุจริตหรือร่วมมือกับคนทุจริตว่า เป็นผู้ทรยศต่อชาติ โดยคำว่าทรยศเป็นคำที่น่าอับอายมาก และต้องเลิกคบค้าสมาคมกับคนพวกนี้ ไม่ยกย่องนับถือ ทั้งนี้ปัจจุบันสังคมไทยกำลังเข้าสู่ยุคแข่งขัน บางครั้งทำให้ผู้คนคิดแต่ประโยชน์ส่วนตัว กระทำสิ่งที่ผิดโดยไม่คำนึงคุณธรรม จึงนำไปสู่หายนะของประเทศ

4.ควรมีการอบรม ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตลอดจนหลักธรรมาภิบาล ตั้งแต่เด็กๆ เพื่อให้เห็นความเลวร้ายของการโกง และทำให้ภูมิใจว่าเขาไม่ได้เป็นคนโกง 5.ภาคเอกชนที่กำลังทำธุรกิจในปัจจุบันนี้ก็มีความจำเป็นต้องประพฤติตนให้เป็นตัวอย่างว่า การทำธุรกิจโดยไม่โกง ก็สามารถทำได้ มีความมั่นคงได้ เจริญก้าวหน้าได้ 6.ต้องไม่ปล่อยให้คนโกงลอยนวล ดำเนินการตามกฎหมายอย่างไม่เกรงกลัว รวมถึงช่วยกันประจานคนโกง และองค์กรโกง ทุกวิถีทาง

เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า 7.ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกวิถีทางที่จะช่วยได้ ป.ป.ช. เป็นองค์กรที่มีหน้าที่โดยตรง แต่มีพลังน้อย ฉะนั้น ต้องช่วยเหลือ สนับสนุนให้กำลังใจ ถ้าทำได้การปราบก็ง่ายขึ้น มีความหวังว่าจะสำเร็จเร็วขึ้น 8.การแก้ปัญหาต้องเริ่มต้นที่ผู้บริหารองค์กร ทำองค์กรตัวเองให้บริสุทธิ์ ใสสะอาด ตามด้วยการปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด รวมทั้งมีระบบตรวจสอบ

9.ควรจะพูดสิ่งเลวร้ายที่กัดกร่อนประเทศในขณะนี้ คือ การปล้นชาติบ่อย ๆ ให้คนได้ยิน และเข้าใจบ่อย ๆ เพื่อที่เขาจะได้ไปปรับตัวเองได้ เขาจะได้เข้าใจว่าคอร์รัปชันทำให้ประเทศเกิดข้อเสียหายอย่างไรบ้าง และ 10.กระบวนการในการจัดการกับคนปล้นชาติต้องรวดเร็ว รุนแรง และเด็ดขาด ช้าไม่ได้ ยิ่งช้ายิ่งเหนื่อยเท่านั้น ไม่ทราบว่ากระบวนการยุติธรรมจะทำได้รวดเร็วขนาดไหน แต่ต้องรวดเร็วตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ กฎหมายระเบียบต่าง ๆ ต้องไม่เป็นอุปสรรค ต้องมีบทลงโทษรุนแรงและเด็ดขาด

“อย่าปล่อยให้หลักคิดและเจตนารมณ์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในการต่อต้านการทุจริตดังกล่าวข้างต้นที่ท่านมักกล่าวย้ำในทุกเวทีในทุกโอกาสห่างหายไปตามกาลเวลา หากทุกคนรักแผ่นดินบ้านเกิดต้องรู้จัก ตอบแทนคุณแผ่นดิน น้อมนำมาปฏิบัติช่วยกันยับยั้งการทุจริต ทำให้ทุกคนรู้ว่าการโกงเป็นสิ่งที่น่าอับอาย การป้องกันไม่ให้มีการโกงควรเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน ยึดหลักจริยธรรมและคุณธรรม ควบคู่กับการปลูกฝังให้คงอยู่ไว้ในความรู้สึก ประเทศไทยก็จะหลุดพ้นจาก การทุจริตผิดกฎหมายคอร์รัปชันต่างๆ ได้อย่างแน่นอน” นายวรวิทย์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน