หนูนา จุดธูปบอกเตี่ยเติ้ง เลี้ยงกล้วยปิ้งแกนนำ พปชร. เอาเคล็ด ยันไม่น้อยใจ ให้คำตอบพรุ่งนี้!
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 พ.ค. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พร้อมแกนนำ อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เดินทางมาที่พรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อเทียบเชิญเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยมีน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และนายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ มาต้อนรับ ทักทายกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจะขึ้นไปประชุมหารือกัน
ภายหลังการหารือกว่า 1 ชั่วโมง แกนนำทั้ง 2 พรรคลงมาแถลงข่าวร่วมกัน โดยนายอุตตม กล่าวว่า ต้องขอบคุณผู้บริหารพรรคชาติไทยพัฒนาทุกคนที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น เราได้หารือกันในเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะแนวนโยบายที่มี เพื่อมาขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมและตอบโจทย์ปัญหาประชาชน ส่วนเหตุที่ยกขบวนขันหมากมาที่พรรคชาติไทยพัฒนาช้า เพราะแต่ละพรรคต่างมีขั้นตอนดำเนินการ พรรคพลังประชารัฐในฐานะแกนนำก็ต้องหารือรอบด้าน เมื่อมีความชัดเจน เราก็มานำเรียนให้พรรคชาติไทยพัฒนาทราบ วันนี้เรารู้สึกอบอุ่นมาก บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี ได้รับการต้อนรับแบบฉันมิตรไมตรี ร้านกาแฟที่นี่ก็สุดเท่ จนไม่รู้สึกเลยว่า แกนนำชาติไทยพัฒนามีความน้อยใจ
เมื่อถามถึงจุดยืนพรรคพลังประชารัฐที่ต้องการให้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ก่อนเจรจาโควตารัฐมนตรี นายอุตตม กล่าวว่า พรรคไม่ได้มีจุดยืนเช่นนั้น เราทำตามขั้นตอน เรายึดพี่น้องประชาชนเป็นหลัก วันนี้บ้านเมืองต้องเดินหน้าได้ ดังนั้น เราหารือระหว่างพรรคการเมืองก็ยึดเรื่องดังกล่าวเป็นหลัก
ด้านน.ส.กัญจนา กล่าวว่า ขอบคุณผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐที่ให้เกียรติเชิญพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล เบื้องต้นคุยกันเกี่ยวกับนโยบายของทั้งสองพรรค เป็นการคุยกันอย่างสร้างสรรค์ โดยมีจุดยืนร่วมกันที่อยากให้ปัญหาประเทศได้รับการแก้ไขและประเทศเดินหน้าไปได้ และยังไม่ได้คุยกันถึงเก้าอี้รัฐมนตรี
เช่นเดียวกับเงื่อนไขในการโหวตพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯ นั้น พรรคขอดูโอกาสในการผลักดันนโยบายก่อน แม้เราจะเป็นพรรคเล็ก แต่มีจุดยืนและมีนโยบายที่อยากจะแก้ปัญหาให้กับประเทศ เราดูโอกาสว่ามีมากน้อยแค่ไหน น่าจะเป็นประเด็นหลักในการตัดสินใจ โดยคณะกรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนา จะนำคำเชิญนี้เข้าหารือกันในวันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.)
เมื่อถามถึงการขับเคลื่อนนโยบายเกี่ยวกับเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ เข้าข่ายงานที่สนใจหรือไม่ น.ส.กัญจนา กล่าวติดตลกว่า “เหมือนถามกระทรวงเลย จริงๆเราก็หาเสียงหลายนโยบาย ตรงไหนทำได้มากน้อยแค่ไหน เราไม่ได้หาเสียงแค่เกษตรอะไรพวกนี้ แต่ก็มองเรื่องสังคมเมือง ท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข แต่คงไม่ได้ทุกกระทรวง ส่วนแนวโน้มจะเป็นอย่างไร ขอประชุมพรุ่งนี้ก่อน ขอเรียนว่าบรรยากาศคุยกันฉันมิตรไมตรี บุคลิกของชาติไทยพัฒนาแต่ไหนแต่ไรมาอะไรที่ทำให้ประเทศเดินหน้าได้ เราไม่ทำตัวเป็นปัญหา ท่านมาคุยก็มีมิตรไมตรี วันนี้เราก็เลี้ยงกล้วยปิ้งท่าน ก็หวังว่าหลังจากนี้ทุกอย่างก็จะกล้วยๆ ขึ้น”
น.ส.กัญจนา กล่าวถึงแนวคิดฝ่ายค้านอิสระที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ ว่า ถ้าเรามีโอกาสได้ทำงานเต็มที่เข้าถึงประชาชนได้อย่างมาก เราเป็นพรรคเล็กมีแค่ 10 เสียง โอกาสดูแลกระทรวงหลักคงแค่กระทรวงเดียว อยากจะได้กระทรวงที่มีขอบข่ายกว้างขวาง แก้ปัญหาหลักๆ ที่ลงถึงรากหญ้าได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราก็หวังว่าจะได้อยู่ตรงนั้น
แต่ถ้าไม่สามารถได้โอกาสตรงนั้น ถ้าถอยออกมาเป็นอิสระ ก็จะสนับสนุนในสิ่งที่ดี อันไหนไม่เหมาะสมก็อาจจะให้ข้อคิดเห็นติติง แต่นั่นคือความคิดที่ผุดข้อเสนอฝ่ายค้านอิสระ ไม่ใช่เรื่องน้อยใจอะไร เพราะอายุปูนนี้แล้ว ที่ผ่านมามีน้อยใจแต่กับคุณพ่อบรรหาร ศิลปอาชา แต่กับเพื่อนร่วมงาน ไม่มีน้อยใจ วันนี้ไม่มีเจ้าบ่าวเจ้าสาว เป็นเพียงการมาเชื้อเชิญเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการพูดคุยและหารือกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐเสร็จสิ้นแล้ว น.ส.กัญจนา และนายวราวุธ ได้ขึ้นไปยังห้องทำงาน ชั้น 2 ของพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อจุดธูปไหว้รูปของนายบรรหาร ศิลปอาชา ผู้เป็นบิดา
นายวราวุธ กล่าวถึงความรู้สึกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและตาแดง ว่า รู้สึกตื้นตันใจที่วันนี้น.ส.กัญจนา พี่สาวและตน ได้ขับเคลื่อนพรรค ตามแนวทางของพ่อ วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นการสานต่องาน และสานต่อนโยบายการทำงานของต่างๆ ของพ่อได้สำเร็จ เชื่อว่าพ่อคงจะมองเห็น
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
