อนาคตใหม่ จัดหนัก ช่อ ฉะ ประยุทธ์เสื่อมเกียรติเวทีโลก 5 ปีปิดสื่อ 59 ครั้ง จับนักเคลื่อนไหว 200 ครั้ง ‘โรม’ ซัด ปฏิปักษ์ประชาธิปไตย ลอบกัดฝ่ายต้าน

อนาคตใหม่ / เวลา 17.50 น. วันที่ 5 มิ.ย. น.ส.พรรณิการ์ วานิช อภิปรายว่าพล.อ.ประยุทธ์ มีความไม่เหมาะสมของการดำรงตำแหน่งนายกฯ ในแง่กระทำการอันเป็นที่เสื่อมเสียเกียรติศัพท์ของนายกฯไม่เหมาะสม เช่นการระบุว่า จะใช้เครื่องประหารหัวสุนัขกับสื่อมวลชน จนถูกสื่อต่างประเทศนำไปรายงานอย่างกว้างขวาง

ทั้งยังมีการการริดรอนสิทธิและเสรีภาพของสื่อ ขัดต่อประมวลจริยธรรม ข้อ 13 ที่กำหนดให้ต้องอิสระเป็นยุติธรรมเป็นกลาง โดยคำนึงสิทธิและเสรีภาพของประชาชน แต่มีการลงโทษสื่อรวมทั้งสิ้น 59 ครั้ง มีการปิดสถานีข่าวทั้งสถานี 14 ครั้ง ในรอบ 5 ปี ซึ่งสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชนย่อมได้รับการคุ้มครอง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 35

นอกจากนี้ยังปิดกั้นการแสดงออกของประชาชน รวม 200 ครั้งใน พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีพฤติกรรมขัดต่อมาตรฐานจริยธรรมที่ใช้กับส.ส.องค์กรอิสระและรัฐมนตรี ซึ่งเกียรติภูมิของนายกฯเป็นเรื่องสำคัญ ต้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของประเทศ

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นได้จากการไปต่อสู้เรียกร้องของประชาชน ซึ่งตนมี 4 คดี ถูกส่งขึ้นศาลทหาร พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีจิตใจ ธำรงค์รักษาระบอบประชาธิปไตย ตามข้อที่ 5 ของประมวลจริยธรรม

คุณสมบัติเช่นนี้ไม่อาจเรียกได้ว่าถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ นักกิจกรรมหลายคนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่ภายใต้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์มีการลอบประทุษร้ายคนเหล่านี้อย่างเป็นระบบ วางแผนเป็นอย่างดี กระทำต่อเป้าหมายอย่างต่อเนื่องกับคนที่เห็นต่างกับคสช. การปิดปากประชาชนเกิดขึ้นตลอดเวลา

นอกจากทำลายประชาธิปไตยแล้ว ยังสร้างส.ว.ขึ้นมา ทำให้เกิดคำถามว่า ส.ว.จะปฎิบัติหน้าที่อย่างอิสระได้หรือไม่ นอกจากปฏิปักษ์กับระบอบประชาธิปไตย แล้วยังต้องการสืบทอดอำนาจผ่านส.ว.ด้วย

พรเพชร เคาะ 2ทุ่มครึ่ง ยุติอภิปราย-โหวตนายกฯ

จากนั้นเวลา 18.25 น. ในการประชุมรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ในฐานะประธานการประชุม น.พ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ขอหารือต่อที่ประชุมถึงการปิดอภิปราย เพราะได้ผ่านการถกเถียงกันมายาวนานแล้ว

นายพรเพชรชี้แจงว่า เหลือผู้อภิปรายที่แสดงเจตจำนงขออภิปรายอีก 15 คน แบ่งเป็นส.ว. 2 คน ส.ส.ฝ่ายสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ 4 คน และฝ่ายสนับสนุนนายธนาธร 9 คน ซึ่งตัวแทนส.ส.ของเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ ตกลงกันว่า ฝ่ายสนับสนุนนายธนาธรจะใช้เวลา 60 นาที พรรคพลังประชารัฐ 40 นาที และส.ว. 20 นาที ก่อนที่นายพรเพชรจะสรุปว่า จะใช้เวลาการอภิปรายอีก 2 ชั่วโมง จะจบเวลา 20.30 น. แล้วจึงเริ่มลงมติเลือกนายกฯต่อไป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน