7 พรรค ปชต. นัดถกปมแก้ รธน. ชงเข้าชื่อยื่น ปธ.สภา สอบคุณสมบัติ 10 ส.ส.ปัดเศษ
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นเจ้าภาพเชิญพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย ประกอบด้วย พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พรรคประชาชาติ (ปช.) พรรคเสรีรวมไทย (สร.) พรรคเพื่อชาติ (พช.) พรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) และพรรคพลังปวงชนไทย ร่วมพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมทั้งขอบคุณในความร่วมมือในการประชุมรัฐสภาในช่วงที่ผ่านมา และกำหนดแนวทางการทำงานร่วมกันของ 7 พรรคการเมือง
นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค พท. กล่าวตอนหนึ่งว่า การหารือในวันนี้เป็นการหารือถึงการทำงานที่ผ่านมา ตั้งแต่การเลือกประธานสภาฯ ซึ่งเรายังไม่ได้มีการคุยกัน วันนี้เราจึงจะหารือกันถึงการทำงานในสภาฯ การจัดระบบวิปฝ่ายค้านและทิศทางการทำงานในสภาฯ หลังจากนี้ ยืนยันว่า 7 พรรคยังยืนข้างประชาธิปไตย เรายังมีพันธะสัญญาที่จะต้องร่วมมือกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหา และยืนยันว่าไม่อยากเห็นการสืบทอดอำนาจ ซึ่งฝ่ายประชาธิปไตยจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เราอยากเห็นการตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นโดยเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน โดยการทำงานของ 7 พรรคการเมืองนั้นจะไม่ใช่การชวนใครลงถนน แต่เป็นการประสานไปยังประชาชน เพื่อให้เข้าใจถึงเป้าหมายและวิธีการทำงานของทั้ง 7 พรรค
ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค อนค. กล่าวว่า พรรค อนค.เวลานี้คือผู้ที่เสียหายมากที่สุด เพราะคะแนนดิบที่นำมาคำนวณ ส.ส.พึงมีตามรัฐธรรมนูญ เราต้องได้ ส.ส.ถึง 89 คน แต่สุดท้ายโดนตัดเหลือเพียง 81 คน ซึ่งเราได้ดำเนินการยื่นคำร้องไปยัง 2 ช่องทาง คือผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีระยะเวลาในการดำเนินการ 3 เดือน และ กกต. แต่ตั้งแต่ยื่นไปเรื่องก็เงียบกริบ
ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค พท. กล่าวว่า ทราบว่าทางพรรค อนค.ได้ไปร้องใน 2 ช่องทางแล้ว ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า 2 หน่วยงานนี้จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะจะเป็นการส่งความเห็นที่โต้แย้งกับความเห็นของเขาเอง ทั้งนี้ ในส่วนของพรรค พท.ได้หารือ และคิดหนักว่าจะทำอย่างไร จะให้ศาลหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องวินิจฉัยในเรื่องนี้อย่างไร
นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า เราได้มีการประชุมฝ่ายกฎหมายหารือกันว่า ขณะนี้เรามี ส.ส.รับรองเรียบร้อย โดยมีบทบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อถึงประธานสภาฯ ตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ ว่า คุณสมบัติของบุคคล หรือสมาชิกคนหนึ่งคนใดไม่มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งสูตรคิดของเรา และ กกต.ต่างกัน เราจึงคิดว่าพรรคเล็กที่ กกต.ประกาศผลออกมานั้น ไม่มีคุณสมบัติจะเป็นส.ส.ได้
นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า อยากให้พรรค อนค.ไม่ต้องไปพึ่งองค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอื่นๆ เพราะเรามี ส.ส.อยู่ในมือ สามารถเข้าชื่อและยื่นต่อประธานสภาฯ ได้ ซึ่งประธานสภาฯ จะต้องส่งเรื่องไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย เพื่อพิจารณาว่าการที่ กกต.ประกาศ 10 พรรคเล็ก ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็น ส.ส.ตั้งแต่แรก เราน่าจะลองในช่องทางนี้ดู
