พปชร.ฝั่งธนบุรี เสนอศึกษาเพื่อเพิ่มเส้นทางการเดินเรือจากฝั่งธนบุรีมายังฝั่งพระนครเพิ่มเติม หลังกทม.เปิดทดลองให้บริการเดินเรือคลองบางกอกใหญ่ จากท่าเรือบางหว้า-ท่าช้าง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 6 เดือน
พปชร. – วันที่ 21 มิ.ย. ที่บริเวณทางเชื่อมท่าเรือราชินี นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาเส้นทางเดินเรือเชื่อมโยงพื้นที่ธนบุรี-พระนคร โดยมีคณะผู้บริหารกทม. ผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการระบายน้ำ สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายสกลธี กล่าวว่า สำนักการจราจรและขนส่ง ดำเนินโครงการพัฒนาเส้นทางเดินเรือตามเส้นทางคลองภาษีเจริญ (ท่าเรือบางหว้า) – คลองบางกอกใหญ่ – แม่น้ำเจ้าพระยา (ท่าเรือท่าช้าง) ระยะทาง 8 กิโลเมตร เพื่อสนับสนุนและเพิ่มทางเลือกระบบขนส่งมวลชนทางน้ำที่เชื่อมโยงการเดินทางในพื้นที่ฝั่งธนบุรี-ฝั่งพระนคร และเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนขนาดหลัก อาทิ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สถานีสนามไชย) ที่ท่าเรือราชินี ให้ประชาชนสะดวกในการเดินทาง
การทดลองบริการเดินเรือได้เริ่มให้บริการฟรีตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเวลา 6 เดือน เส้นทางเริ่มจากท่าเรือบางหว้า (คลองภาษีเจริญ) ถึงท่าเรือท่าช้าง ให้บริการวันจันทร์-อาทิตย์ เรือจะออกจากท่าเรือต้นทาง (ท่าเรือบางหว้า) ดังนี้ เวลา 06.00-09.00 น. เรือออกทุก 30 นาที ,เวลา 09.00-15.00 น. เรือออกทุก 1 ชั่วโมง,เวลา 15.00-19.00 น. เรือออกทุก 30 นาที ส่วนท่าช้างให้บริการเที่ยวแรกเวลา 06.30 น.
เส้นทางการเดินเรือเริ่มต้นจากท่าเรือบางหว้าคลองภาษีเจริญ เลี้ยวขวาที่วัดปากน้ำภาษีเจริญเข้าสู่คลองบางกอกใหญ่ จอดรับส่งผู้โดยสารท่าเรือวัดอินทราราม จากนั้นผ่านประตูระบายน้ำคลองบางกอกใหญ่ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เลี้ยวขวาเพื่อไปจอดรับส่งผู้โดยสารที่ท่าเรือท่าเรือสะพานพุทธ จากนั้นแล่นเลียบฝั่งพระนครไปยังท่าเรือราชินี โดยท่าเรือนี้จะเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายสถานีสยามไชยที่จะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ จากนั้นวิ่งไปสุดที่ท่าเรือท่าช้าง
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.เขต 30 บางกอกน้อย บางพลัด พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยว่า เส้นทางเดินเรือบางหว้า-ท่าช้าง เป็นเส้นทางแรกตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพปชร.ที่หาเสียงไว้เรื่อง “ล้อ ราง เรือ” เป็นการแบ่งเบาภาระการจราจรบนท้องถนน ทำให้ประหยัดเวลาการเดินทาง ลดมลภาวะ ซึ่งปัจจุบันมีรถยนต์มากกว่า 3 ล้านเที่ยวต่อวัน เดินทางข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 22 แห่ง ก่อให้เกิดปัญหาจราจรและ กระทบคุณภาพชีวิตผู้คนจำนวนมาก
นายจักรพันธ์ กล่าวว่า ในฐานะส.ส.ฝั่งธนบุรี เห็นว่าควรผลักดันให้มีการขยายเส้นทางเครือข่ายเพิ่มขึ้น รวมถึงให้รัฐบาลและกทม.ร่วมกันศึกษาเส้นทางเรือแบบนี้เพิ่มเติม ซึ่งฝั่งธนฯมีอัตลักษณ์สำคัญคือมีแม่น้ำลำคลองที่เป็นทางสัญจรตั้งแต่อดีต หากเรานำศักยภาพตรงนี้มาใช้ได้เต็มที่ จะประหยัดเวลาเดินทางข้ามฟากและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก