ประจักษ์ ชี้เลือกตั้งครั้งนี้ เหมือนสถาปนาระบอบประยุทธ์ เชื่ออยู่ครบเทอม แนะอนาคตใหม่ยึดโยงกับประชาชน วันถูกยุบจะมีคนปกป้องเอง

วันที่ 21 มิ.ย. ที่ร้านเบรนเวก มติชนอคาเดมี จัดเสวนา “ประชาธิปไตยเมื่อไหร่จะตั้งมั่น” โดยมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ นาย ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

โดยนายประจักษ์ มองสถานการณ์ในไทยกับประเทศอื่นหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยว่า เรายังไม่พ้นจากเผด็จการเราเป็นระบบผสมคือ แต่ก็ยังไม่เป็นเผด็จการที่เต็มใบ แม้เรามีการเลือกตั้ง แปลงกายตัวเองจากเผด็จการเต็มใบให้เป็นเผด็จการน้อยลง และมีคนยอมรับยู่บ้าง แต่ความพยายามนี้มันล้มเหลว เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมามันมีความพิศดารต่างๆทั้งสูตรการคำนวณการเป็นส.ส.

ดังนั้นรัฐบาลจึงขาดความชอบธรรม และเมื่อมาดูรัฐธรรมนูญมันไม่ชอบธรรมดูจากการได้มาของส.ว.ที่คสช.เป็นผู้แต่งตั้งแล้วก็ให้มาเลือกนายกฯ ซึ่งมันเป็นการเปื่อยเปล่ามาก และอีกอย่างส.ว.ชุดปัจจุบันของไทยถือมีอำนาจมากที่สุดในโลก ตนมองว่า ส.ว.ถือเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีเอกภาพมาก อยู่ยาวกว่าส.ส. เป็นกลไกที่แยบยลที่สุด

โดยเราจะเห็นใน 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาฝ่ายรัฐบาลมีความวุ่นวายกันเอง นายกฯมีอำนาจเต็ม แต่การตั้งรัฐบาลมันดูลำบากมาก แม้กระบวนการต่างๆไม่มีใครไปยุ่งแต่กลายเป็นว่าเราเห็นการจัดตั้งรัฐบาลมีความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง และพรรคพลังประชารัฐไม่สามารถชนะอย่างถล่มทลาย

เรามีการเลือกตั้งแล้วแต่ก็ยังไม่ออกจากเผด็จการ ดังนั้นเมื่อได้ประชาธิปไตยแล้วให้มันอยู่ตั้งมั่น จนถึงวันนี้เราไม่สามารถทำให้ประชาธิปไตยลงหลักปักฐานได้เลย สังคมไทยถ้ามองในแง่ของการเปลี่ยนผ่านนั้นมีเหตุการณ์ที่ประชาชนลุกขึ้นมาโค่นเผด็จการ แต่ก็ไม่ตั้งมั่น แล้วเวลาที่ประชาธิปไตยล้มเหลวก็โทษประชาชน

“ในประวัติศาสตร์อย่างทางการก็จะบอกว่านักรัฐศาสตร์ ชาวนา กรรมกร นักศึกษาเป็นผู้ร้าย แทนที่จะไปดูว่าใครเป็นผู้ร้ายกันแน่ สังคมไทยเหมือนมีมายาคติเป็นนิทาน ถ้าเราแก้นิทานประวัติศาสตร์นี้ไม่ได้เราก็ยากจะลงหลักปักฐานได้” นายประจักษ์ กล่าว

นายประจักษ์ กล่าวว่า เราจะบอกอย่างไรให้คนมีอำนาจเหล่านี้คืนอำนาจให้พลเรือนคงต้องให้ ผบ.ทบ.ต้องฟังเพลงกิเลสมนุษย์ แต่กองทัพยังมีอำนาจอยู่ แฝงฝังอยู่ในส.ว. เราไม่เคยมีการเอาผู้นำทางเหล่าทัพที่ยังอยู่ในตำแหน่งอยู่ไปอยู่ในสภา เชื่อว่าเราคงไม่สามารถรับเปลี่ยนปฏิรูปกองทัพจากกองทัพเอง การปฏิรูปทางการเมืองจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราปฏิรูปกองทัพได้ ซึ่งมันก็ล้มเหลวมาตลอด

เราคงอยู่กับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ชุดนี้จนครบเทอม 4 ปี อย่างไรแล้วพล.อ.ประยุทธ์มีเครื่องมือมากกว่าจอมพลถนอม กิตติจร เครื่องมือระบอบประยุทธ์มีอยู่เท่านายทักษิณ และมีท่าทีอยู่ต่อ ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการสถาปนาระบอบประยุทธ์ไปแล้ว

“ส่วนที่ว่าพรรคอนาคตใหม่ เพื่อไทย จะทำได้หรือไม่ให้พล.อ.ประยุทธ์อ่อนลง เชื่อว่ายังมีเสถียรภาพ ถ้าเขายังจับมือกันอยู่ มีความเหนียวแน่น ในการเมืองเช่นนี้ที่เป็นพรรคการเมืองที่มีแนวร่วมของหลายพรรคแล้วประกาศจะต่อสู้โดยเอาประชาธิปไตยเป็นหลักนั้นเหนียวแน่นดี ดูว่า 7 พรรคที่อ้างเป็นประชาธิปไตยจะทำงานร่วมกันได้ยาวมากแค่ไหน ถ้ายาวก็จะมีผลถึงครั้งหน้าของการเลือกตั้ง” นายประจักษ์ กล่าว

วันนี้ถ้าพรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้มาก จึงมีโอกาสที่พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบได้ เพราะโตเร็วมาก ชนชั้นนำจะมีความคิดว่าต้องตัดไฟแต่ต้นลม เพราะคิดอีกว่าต่อไปการเลือกตั้งพรรคอนาคตใหม่ก็จะต้องได้คะแนนมากขึ้น ชนชั้นนำก็คิดแน่ว่าจะตัดผู้นำพรรค

พรรคอนาคตใหม่จึงต้องทำตัวไม่มีอุดมการณ์ซึ่งก็ไม่ได้ ทำให้คนชนชั้นนำตายใจ และทางเดียวพรรคอนาคตใหม่ไม่ทำตัวเอง เป็นแค่ต่อสู้ในสภาเท่านั้น แต่ทำอย่างไรให้เชื่อมโยงกับประชาชนได้ และทำให้ประชาชนเห็นว่าคุณเป็นพรรคที่เป็นตัวแทนเขาได้ ถ้าวันโดนยุบประชาชนจะปกป้องเขาเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน