พลังประชารัฐ โต้กลับ! เตรียมยื่น ‘ชวน’ สัปดาห์นี้ เอาผิดส.ส. 7 พรรคฝ่ายค้าน ถือหุ้นสื่อ หลังพบ 55 ส.ส.เข้าข่าย อ้าง! เด็กอนาคตใหม่เกินครึ่งเอี่ยว แฉบางส่วนไหวตัวทัน

วันที่ 27 มิ.ย. นายทศพล เพ็งส้ม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้าทีมต่อสู้คดีกรณี 27 ส.ส.พรรคพปชร. ถูกร้องถือครองหุ้นและเป็นเจ้าของกิจการสื่อ เปิดเผยว่า สำหรับการต่อสู้คดีในส่วนของ 27 ส.ส.พรรคพปชร.ที่ทางพรรคได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญไปก่อนหน้านี้ เพื่อขอให้ศาลมีมติคุ้มครองชั่วคราวนั้น เพราะต้องการขอให้ศาลมีการไต่สวนพยานหลักฐาน ก่อนจะรับไว้พิจารณาหรือมีคำสั่งวินิจฉัย

นายทศพล กล่าวต่อว่า ซึ่งศาลอาจจะไม่มีการไต่สวนก็ได้ แต่เราเพียงขอโอกาสชี้แจง ส่วนกรณีที่พรรค พปชร.จะยื่นให้ตรวจสอบการถือหุ้นสื่อมวลชนของ 7 พรรคฝ่ายค้านนั้น ขณะนี้คณะทำงานได้ส่งรายชื่อที่เข้าข่ายมาแล้วมากกว่า 30 รายชื่อ เพื่อให้ตรวจสอบในรายละเอียด พร้อมจัดทำคำร้องให้ถูกต้อง ไม่ให้ตกม้าตายเหมือนพรรคอนาคตใหม่ ที่ยื่นให้มีการตรวจสอบ ส.ส.พรรคพปชร.ผิดช่องทาง ทั้งนี้ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ ระหว่างการประชุมสภา จะสามารถยื่นต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการรวบรวมรายชื่อ ส.ส.ฝั่ง 7 พรรคการเมืองฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเพื่อไทย และอนาคตใหม่ เพื่อยื่นให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนยื่นเรื่องให้ศาลพิจารณา กรณีถือหุ้นสื่อนั้น จะดำเนินการให้เสร็จในสัปดาห์นี้ โดยล่าสุดเข้าข่ายถึง 55 คน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระบุว่ามี 20-30 คน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

โดยปรากฎว่าในส่วนของ พรรคอนาคตใหม่ มี 33 คน อาทิ พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายชำนาญ จันทร์เรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายวาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายวินท์ สุธีรชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ส.ส.ในส่วนของ พรรคเพื่อไทย ที่มีชื่อในข่ายประมาณ 10 คน อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่, นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย, นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่, นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง, นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร, นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์, นางอาภรณ์ สาราคำ ส.ส.อุดรธานี, นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก, นายโกศล ปัทมะ ส.ส.นครราชสีมา

พรรคเพื่อชาติ จำนวน 4 คน ได้แก่ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นางลินดา เชิดชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ

พรรคเสรีรวมไทย จำนวน 4 คน อาทิ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ขณะที่พรรคประชาชาติ 2 คน ได้แก่ นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา และ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคเศรษฐกิจใหม่และพรรคพลังปวงชนไทย มีพรรคละ 1 คน

ทั้งนี้ รายงานข่าวจาก พปชร. เปิดเผยว่า ทีมงานของพลังประชารัฐ ได้ตรวจสอบพบว่า นอกจาก 33 คนของอนาคตใหม่ที่อยู่ในข่ายนั้น พบว่ายังมี 10 คน ที่มีการดำเนินการแก้ไขวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการ จึงเป็นเหตุให้ควรเชื่อได้ว่าบุคคลเหล่านี้ถือหุ้นและประกอบกิจการสื่ออย่างชัดเจนหรือไม่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบย้อนหลังต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการยื่นให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น จะเป็นหน้าที่ของนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พปชร.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน