“นิพิฏฐ์” เผย นายตำรวจยศ พล.ต.ท. ขอข้อมูล สร้างภาพแก้หนี้นอกระบบ – โฉนดที่ดิน หลอกผู้ใหญ่ในรัฐบาล ท้าเอาสถิติออกมาดู แฉขบวนการต่อรองคดีเพื่อโชว์ผลงาน หลอกนาย หวังเติบโตในราชการ

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. จากกรณี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ “นายทุนเงินกู้นอกระบบ-คืนโฉนด ของจริงหรือแหกตา” ว่า ตนนำเรื่องการคืนโฉนดให้ชาวบ้านที่นายทุนยึดไว้ ของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) มาเล่าให้ฟังไปตอนหนึ่งแล้ว การคืนโฉนดมีเรื่องไม่จริง เป็นการสร้างภาพรวมอยู่ด้วย ค่อนข้างเยอะ

เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2562 ศปฉช.ตร.แถลงว่า ตั้งแต่เริ่มดำเนินการโครงการนี้มีการไกล่เกลี่ยไปแล้ว 24,014 ราย คืนโฉนดไป 20,360 ฉบับ เนื้อที่ 57,648 ไร่ ราคาที่ดิน 27,614,488,361 บาท
คือ

1.ตามพ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 การให้ยืมเงินและเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และประการสำคัญตามกฎหมาย “เป็นความผิดต่อแผ่นดินที่ยอมความไม่ได้”

คดีเหล่านี้เมื่อตำรวจพบการกระทำผิดต้องดำเนินคดีทันที จะไกล่เกลี่ยและระงับคดีไม่ได้ ถามว่าจำนวนที่พบการกระทำความผิด และไกล่เกลี่ยไป 24,014 รายนั้น ตำรวจดำเนินคดีไปกี่ราย หากไม่ดำเนินคดีถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เป็นเรื่องน่าสนใจ

2.จำนวนผู้ที่ตำรวจอ้างว่าเข้าไกล่เกลี่ย 24,014 รายนั้น ลองเปิดเผยชื่อมาดู ประชาชนจะได้ไปสอบถามได้ว่า คุณลุง คุณป้า เหล่านั้นกู้ยืมเงินนายทุนไปจริงหรือเปล่า หรือเพียงเอาโฉนดของตนเองให้ตำรวจไปแล้วให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลมาแจกโฉนดของตนเองคืน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

“เอาเป็นว่าเปิดเผยสถิติคดีเถอะ แล้วจะรู้ว่าของจริงหรือของปลอม ผมนำเรื่องนี้มากล่าวมิได้มีเจตนาร้ายต่อตำรวจ เจตนาดีต่อตำรวจเสียด้วยซ้ำ อยากให้ตำรวจดีๆ ได้ทำงานอย่างสะดวกใจ ไม่เสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย ทำงานเข้าสู่ระบบที่ถูกต้องเถอะ และอยากให้ตำรวจมีวิญญาณของความเป็นกบฏเสียบ้าง สิ่งไหนที่ผู้บังคับบัญชาสั่งแล้วไม่ถูกต้อง ก็หัดเป็นกบฏเสียบ้าง ที่ออกมาพูดก็เท่านี้ มีเรื่องอื่นอีก 2-3 เรื่อง จะเล่าให้ฟัง ค่อยว่ากันอีก” นายนิพิฎฐ์ ระบุ

ล่าสุด นายนิพิฎฐ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า มีผู้บัญชาการตำรวจภาค ยศพลตำรวจโท โทรศัพท์มาคุยขอข้อมูลเรื่องนี้กับตนแล้ว ตนก็บอกว่าเห็นด้วยกับโครงการนี้ เพราะช่วยคนจนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ในการเริ่มต้นโครงการใหม่ๆ ก็โอเค

แต่ตอนหลังมันไม่ใช่ของจริง มีจำนวนเยอะมาก ดังนั้น ตนจึงยกตัวอย่างให้ผู้บัญชาการภาคทราบ ว่าข้อมูลของศูนย์ ศปฉช.ตร.ที่ตนโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าไกล่เกลี่ยไปแล้วกว่า 24,000 ราย คืนโฉนดไป 20,000 กว่าฉบับ เป็นคดีที่ยอมความกันไม่ได้ แต่ตำรวจกลับไปไกล่เกลี่ยคดี

“ผมจึงอยากทราบว่าตำรวจใช้อำนาจอะไรที่ไม่ดำเนินคดีตามกฎหมาย ถ้าไกล่เกลี่ยคดีไปแล้ว มีสถิติและรายละเอียดหรือไม่ ฉะนั้นผมจึงสันนิษฐานว่ากรณีนี้ไม่เป็นความจริง เพราะตำรวจไม่มีอำนาจในการไกล่เกลี่ย ต้องดำเนินคดีเท่านั้น โดยเฉพาะระยะหลังมีการสร้างภาพว่าไปจับนายทุนเงินกู้มา ซึ่งจับจริงอาจจะ 1-2 ราย มีสัญญาเงินกู้ 5 ฉบับ ก็มีการต่อรองว่าให้ใช้สัญญาเงินกู้ 2 ฉบับพอ แล้วไปหาโฉนดที่ดินของพรรคพวกคุณมาให้ผม 20 ใบ

แล้วผมจะให้นายมาแจกคืนในวันที่เขาทำพิธี พอทำอย่างนี้คนเขาก็เดือดร้อน ว่าจะเอาโฉนดที่ดินที่ไหนไปให้ แต่เมื่อต่อรองคดีว่าจะไม่ถูกดำเนินคดีในหลายๆ กรรม เขาก็ต้องวิ่งหาโฉนดที่ดินให้ได้ มีลักษณะเช่นนี้จำนวนมาก ซึ่งผู้บังคับการตำรวจภาคก็รับปากจะรับข้อสังเกตของผมไว้ และจะดำเนินคดีตามความเป็นจริง ซึ่งเขาจะมีพิธีแจกโฉนดที่ดินอีกครั้งในเร็วๆ นี้ ที่จ.กาญจนบุรี” นายนิพิฏฐ์กล่าว

เมื่อถามว่าทางตำรวจยอมรับหรือไม่ว่าไม่มีอำนาจไกล่เกลี่ยคดีที่เก็บดอกเบี้ยเงินกู้เกินกว่ากฎหมายกำหนด นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า เขาไม่ยอมรับเลยทีเดียว เพียงแต่รู้กันว่าในทางกฎหมายที่บัญญัติไว้ ตำรวจไม่มีสิทธิ แต่พอมาแถลงว่าไกล่เกลี่ยไปแล้ว 20,000 กว่าราย คนเป็นนักกฎหมาย ที่รู้กฎหมาย เขาก็แปลกใจ และตั้งข้อสังเกตว่ากฎหมายกำหนดอย่างนี้แล้วไปไกล่เกลี่ยคดีได้อย่างไร เพราะเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้

เมื่อถามว่าจะฝากอะไรถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ว่าจะทำนโยบายนี้ให้รัดกุมหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า คงไม่ฝากอะไรเป็นพิเศษ แต่การทำคดีเพื่อช่วยเหลือประชาชนคนยากคนจน เป็นสิ่งที่ตนเห็นด้วยและสนับสนุน ในการให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนที่ยากจน แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายและข้อเท็จจริง

ถ้าไม่ทำอย่าตรงไปตรงมาก็จะถูกหลอกจากนายตำรวจบางคนที่ต้องการโชว์ผลงาน โดยไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่เช่นนั้นนายหรือผู้ใหญ่จะถูกหลอก หรือถ้าให้สิ่งเหล่านี้เดินหน้าต่อ เราก็ต้องยอมรับว่า มีกระบวนการต่อรองในการดำเนินคดี หรือจะไม่ดำเนินคดีอาญา แต่ต้องทำสถิติให้เขา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมาย เพราะตำรวจชั้นผู้น้อยส่วนใหญ่ลำบากใจมาก ขณะที่มีตำรวจบางนายที่สนับสนุนเรื่องนี้ โดยเน้นการสร้างสถิติ ก็เจริญเติบโตทางราชการ ดังนั้น ตนจึงขอให้ดำเนินคดีตามความเป็นจริง


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน