ปิยบุตร หนุน วิษณุ ศาลต้องแขวน 41 ส.ส.เหมือนธนาธร แจงทีมกฎหมายสู้ปมสื่อได้ถึง 8 ก.ค. หลังศาลปัดต่อเวลา รอสืบพยานบุคคล เมินรัฐบาลร้อง 55 ส.ส.ฝ่ายค้าน ขอมาตรฐานเดียว ไม่เลือกปฏิบัติ
วันที่ 25 มิ.ย. ที่พรรคอนาคตใหม่ นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ระบุถึงการตีความ 41 ส.ส.รัฐบาลถือหุ้นสื่อของศาลรัฐธรรมนูญควรต้องดูจากความเสียหายที่ตามมาเป็นหลัก ว่า นายวิษณุพูดถูก การประเมินต้องดูผลกระทบความเสียหายในการทำหน้าที่ในสภา
กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคพรคอนาคตใหม่ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 8 ต่อ 1 ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ระบุว่าหากให้เข้าประชุมส.ส.จะมีข้อโต้แย้งคัดค้านทางกฎหมายตามมาจำนวนมาก เมื่อศาลมองว่ากรณีนายธนาธรเป็นส.ส.คนเดียวทำให้เสียหาย
แล้วถามว่ากรณี 41 ส.ส.เสียหายหรือไม่ จะบอกว่าไม่เสียหายเพราะจะโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณประจำปีไม่ผ่าน ก็คงไม่ได้ ทั้งนี้คงต้องรอดูว่าศาลจะมีดุลพินิจเป็นอย่างไร
นายปิยบุตร กล่าวว่า ขอให้ดูคำร้องของส.ส.อนาคตใหม่ที่เข้าชื่อร้อง 41 ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล กับที่กกต.ทำคำร้องของนายธนาธรส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ จะเห็นว่าแตกต่างกันมาก คำร้อง กกต.มีรายละเอียดตามเนื้อหาของสำนักข่าวแห่งหนึ่งเท่านั้น แต่คำร้องของส.ส.อนาคตใหม่มีรายละเอียดมาก มีการตรวจสอบว่า ใครยังถือหุ้นในบริษัทใดบ้าง บริษัทปิดกิจการไปแล้วก็ไม่ได้ยื่นร้อง
ตามกระบวนการของ 41 ส.ส.นั้น การรับคำร้องหรือไม่ เป็นคนละขั้นตอนกับการตัดสิน การพิจารณารับหรือไม่คำร้อง ไม่จำเป็นต้องไต่สวน เมื่อรับคำร้องไปแล้วจึงเข้าสู่ขั้นตอนไต่สวนชี้แจงกันภายหลังเหมือนกรณีนายธนาธร ส่วนกรณีการยื่นร้อง 55 ส.ส.ฝ่ายค้านนั้น ไม่เป็นไร เป็นสิทธิของแต่ละท่าน แต่ข้อให้มีมาตรฐานเดียวกัน ไม่เลือกปฏิบัติโดยดูจากหน้าผู้ถูกร้อง
เมื่อถามถึงกรณีศาลไม่อนุญาตให้นายธนาธร ขยายเวลาชี้แจงเพิ่มเติมอีก 15 วัน นายปิยบุตร กล่าวว่า ทีมกฎหมายยังมีเวลายื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมถึงวันที่ 8 ก.ค. หลังจากนี้ต้องดูว่าศาลจะให้มีการสืบพยานบุคคลหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้เตรียมเรื่องพยานไว้
