ปิยบุตร ฉะแผนปฏิรูปไม่เห็นหัวประชาชน แค่ข้ออ้างยึดอำนาจ สร้างรัฐซ้อนรัฐ ดันส.ว.ขี่คอส.ส. จ้องสืบทอดอำนาจ ชวนเพื่อนส.ส.รักศักดิ์ศรีปิดประตูกองทัพ

วันที่ 27 มิ.ย. ในที่ประชุมสภาผู้แทนฯ นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายแผนการปฏิรูปประเทศว่า เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่ควรต้องถูกปฏิรูป 3 หน่วยงาน ไม่ถูกปฏิรูป ทั้งที่ถูกสังคมตั้งคำถามคือ

  1. กองทัพที่ไม่ทำหน้าที่ของตน แต่กลับทำหน้าที่ก่อรัฐประหารอยู่บ่อยครั้ง ต้องปฏิรูปให้กองทัพสอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย มีพลเรือนอยู่เหนือกองทัพที่ต้องเคารพหลักประชาธิปไตย สิทธิมุนษยชนสากล
  2. ศาลที่ถูกตั้งคำถามถึงมาตรฐานมาตลอด 13 ปีที่ผ่านมา
  3. คสช.ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า ก็คือบุคคลที่ควรปฏิรูปที่สุด

ทั้งนี้ แผนการปฏิรูปและรายงานความคืบหน้านั้น มีข้อสังเกต 3 ข้อ 1.ทำให้เกิดซูเปอร์รัฐบาล ระบบปกติ ที่ใช้เสียงข้างมากส.ส.เลือกนายกฯ เข้ามาบริหารประเทศ แล้วมีสภาพัฒน์คอยทำแผนพัฒนาประเทศให้รัฐบาลดำเนินการ แต่กลับมีการปฏิรูปแบบพิเศษขึ้นมา คือเมื่อมีรัฐประหารเกิดขึ้นก็จะอ้างปฏิรูป จนกลายเป็นรัฐซ้อนรัฐขึ้นมา

นายปิยบุตร กล่าวว่า รัฐหนึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน มีอำนาจน้อยมาก ถูกริดรอนลงไปเรื่อยๆ เพราะมีอีกรัฐซ้อนมาคือ คสช. โดยกองทัพทำรัฐปกติให้เป็นรัฐทหารมากขึ้น และยังมีกรรมการยุทธศาสตร์ชาติที่มีพล.อ.ประยุทธ์นั่งหัวโต๊ะ แล้วก็มากำกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ถ้าหัวโต๊ะครม.กับหัวยุทธศาสตร์ชาติเป็นฝ่ายเดียวกันก็ดี แต่ถ้าเป็นคนละฝ่ายจะเกิดปัญหาทันที ครม.จะไม่อาจบริหารได้เลย

รัฐมนตรีจะเป็นเพียงซูเปอร์ปลัดเท่านั้น ทำหน้าที่คอยติดตามแผนปฏิรูป รัฐมนตรีถูกลดทอนคุณค่าจากคนสร้างสรรค์นโยบายมาเป็นเพียงคนติดตามงาน คนจะอยากเป็นรัฐมนตรีเพื่ออยากใช้งบประมาณเท่านั้น นี่คือการลดทอนคุณค่านักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง

2.สร้างอุตสาหกรรมการปฏิรูป เมื่อรัฐประหารเสร็จก็จะตั้งคณะกรรมการปฏิรูปขึ้นมา จ่ายเงินเดือน จ่ายเบี้ยประชุม ทำรายงานออกมาเป็นปึก แล้วออกกฎหมายไปใช้ ผลผลิตคือกองกระดาษมโหฬาร และบุคคลในแวดวงนี้ก็เป็นบุคคลหน้าเดิมๆ คือ เทคโนแคตร ข้าราชการประจำที่สนับสนุนรัฐประหาร

3.แผนการปฏิรูปยังทำให้วุฒิสภาขี่คอเหนือสภาผู้แทนราษฎร ในมาตรา 270 กำหนดให้รายงานแผนปฏิรูปต่อส.ส.ทุก 3 เดือน ส่วนส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งจากคสช. ทำหน้าที่ติดตามเสนอแนะเร่งรัด ส.ส.ทำได้แค่อภิปราย แล้ว 3 เดือนหน้าค่อยพบกันใหม่ เท่านั้นยังไม่พอ การปฏิรูปก็ใช้กระบวนการนิติบัญญัติแบบพิเศษ ใช้แบบปกติ เข้าตามตรอกออกตามประตูที่ต้องเริ่มจากส.ส.แล้วค่อยไปวุฒิสภาไม่ได้

นายปิยบุตร กล่าวว่า การออกกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปต้องใช้ช่องพิเศษคือเสนอในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา แล้วส.ว.ชุดนี้ของใคร ผลงานชัดเจนแล้วเมื่อ 249 คนโหวตนายกฯ เหมือนกันทั้งหมด แล้วหากสงสัยว่ากฎหมายฉบับใดเกี่ยวกับการปฏิรูป ส.ส.และส.ว.อาจเข้าชื่อเสนอให้ประธาน ตั้งกรรมาธิการร่วมกัน โดยมีประธานวุฒิสภามาเป็นผู้ชี้ว่าเกี่ยวกับการปฏิรูป ต้องใช้พิจารณาร่วมกันทั้งส.ส.และส.ว.หรือไม่

วุฒิสภาขี่คอส.ส.มากขึ้นเรื่อยๆ ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ส.ส.ตัวแทนของประชาชนถูกริดรอน อำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ยึดอำนาจทีไรจะถูกโทษให้ผิด โดยไม่ส่องกระจกมองตัวเอง แล้วก็มาลดอำนาจส.ส.

จึงอยากวิงวอนเพื่อนส.ส.ที่มาจากประชาชน ให้ผนึกกำลัง เพื่อไม่ให้องค์กรแปลกปลอมเข้ามา ไม่ใช่เปิดประตูให้เขาขยับแดนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ญัตติการตรวจสอบที่มาส.ว.นั้น ถูกตีตกไป

การปฏิรูปประเทศไทยแยกไม่ออกจากรัฐประหาร การปฏิรูปครั้งนี้เป็นผลพวงการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 การรัฐประหารทุกครั้งที่ไม่มีความชอบธรรม ก็ต้องใช้ข้ออ้างซ้ำไปซ้ำมาคือ นักการเมืองไม่ดี บ้านเมืองขัดแย้ง ต้องปฏิรูป คำว่าปฏิรูปไม่ใช่คำว่า reform เป็นเพียงข้ออ้างของการรัฐประหารเท่านั้น เป็นกลไกการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารที่อยากอยู่ต่อไปเรื่อยๆ

เป็นการนำเอาระบอบรัฐประหารเข้ามาฝังตัวในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญตลอดกาลชั่วกัลปวสาน การปฏิรูปของคสช.ไม่เห็นหัวประชาชน มีแต่คนหน้าซ้ำเดิมๆ จากนายพล เทคโนแครต นักวิชาการ ข้าราชการ ส.ว.ตลอดชีพตั้งแต่ปี 2549 ถึงปัจจุบัน

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า อยากชวนเพื่อนส.ส.อีกครั้ง นี่คือความศักดิ์สิทธิ์ที่เราถือเอาไว้ เพราะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ต้องร่วมพิสูจน์กันว่าสามารถปฏิรูปกันได้ตามปกติ ไม่ต้องเปิดประตูชวนคณะรัฐประหารเข้ามา เลือกตั้งแล้ว เสียงข้างน้อยตรวจสอบเสียงข้างมาก ครบวาระแล้วเลือกตั้งใหม่ ไม่ต้องเปิดประตูให้กองทัพ อยากให้ส.ส.คิดถึงศักดิ์ศรีของพวกเรา ไม่ต้องอาศัยรัฐประหาร รัฐราชการและส.ว.แต่งตั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน