แม่ จ่านิว ขอความร่วมมืองดเยี่ยมวันนี้เหตุต้องผ่าตา เผยถึงมือหมอก็สบายใจ ฟาก “ทวี” จ่อยื่นญัตติด่วนตั้งกมธ.สอบ พร้อมเสนอเป็นคดีพิเศษเหตุอุกฉกรรจ์

วันที่ 30 มิ.ย. ที่อาคาร 1 รพ.รามาธิบดี ตัวแทน 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ฐานะประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชน เดินทางมาเยี่ยม จ่านิว นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ พร้อมมอบกระเช้าดอกไม้โดยมีน.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ แม่จ่านิวมาให้การต้อนรับ

น.ส.พัฒน์นรี กล่าวว่า ตอนนี้อาการนิวทรงตัว มีอาการปวดเหมือนเดิม วันนี้จะเข้ารับการผ่าตัดจมูกที่ยุบลงไปจากการถูกตี ทำให้หายใจลำบาก หมอจะต้องผ่าตัดงัดกระดูกมา เพื่อให้นิวหายใจคล่องขึ้น และวันนี้ขอความร่วมมือจากคนที่รักและห่วงนิว ว่าไม่ต้องมาเยี่ยม เพราะว่านิวจะต้องเข้ารับการผ่าตัด ทำให้ไม่สะดวก และตนจะต้องดูแลตลอด ไม่มีเวลามาต้อนรับดูแล

ทั้งนี้ ในส่วนของอาการมีเรื่องของตาข้างขวา ที่ยังน่าเป็นห่วงอยู่ เพราะเบ้าตากระดูกแตก มีเลือดคั่งไปทับเส้นประสาท จึงมีผลกระทบต่อการมองเห็นทำให้ตอนนี้มองเห็นไม่ชัด ซึ่งเบื้องต้นต้องผ่าตัด เพราะเกรงว่าเส้นประสาทจะเสื่อม หมอยังไม่ให้นิวขยับเดิน เพื่อไม่ให้เลือดกระจายอยู่จุดเดียวเป็นก้อน จึงให้นอนอยู่นิ่งๆ

“มาถึงมือหมอแล้วแม่ก็สบายใจขึ้น ขณะนี้ร่างกายนิวตอบสนองดี เชื่อว่าหลังผ่าตัดน่าจะราบรื่นดี ขณะนี้นิวรู้สึกดีตั้งแต่วินาทีที่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ คุยรู้เรื่องแต่ตอบสนองช้า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดี ได้เข้ามาขอข้อมูลแล้ว แต่นิวได้ปฎิเสธ เพราะยังไม่พร้อมให้ปากคำ ขอให้นิวได้ผ่าตัดเรียบร้อยก่อน” น.ส.พัฒน์นรี กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงการตั้งกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้อำนาจรัฐ เพื่อค้นหาความจริงในเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ทางพรรคประชาชาติจะเสนอญัตติด่วนเพื่อตั้งกรรมาธิการชุดดังกล่าวในสัปดาห์นี้ โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมาร่วมด้วย

เบื้องต้นอยากเรียกร้องเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เพราะเป็นอาญาแผ่นดิน และเป็นการใช้กำลังประทุษร้ายกับคนที่ออกมาใช้สิทธิเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจสร้างความไม่พอใจให้กับผู้มีอำนาจ ที่ผ่านมาจ่านิวถูกเจ้าหน้าที่เฝ้าและจับกุมตัวตลอดเวลา

ดังนั้นจ่านิวอยู่ในสายตาเจ้าหน้าที่รัฐตลอด การปล่อยให้เกิดการประทุษร้ายติดๆ กัน ไม่ดีต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและภาพพจน์ของประเทศ ขอเรียกร้องหน่วยงานของรัฐว่าข้าราชการรับเงินเดือนจากภาษีของประชาชน ขอให้ธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม ทุกคนต้องอยูภายใต้ข้อกฎหมยที่เสมอภาค เท่าเทียม การทำให้เสรีภาพของคนน้อยลงคือความกลัว

การทำให้ประชาชนกลัวถือเป็นมาตรการสำคัญของผู้มีอำนาจ เมื่อประชาชนกลัวก็สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ ดังนั้นข้าราชการอย่ากลัวจนไม่กล้าปฎิบัติหน้าที่ ปกป้องสิทธิเสรีภาพ ยังดีใจว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอได้เข้ามาในเชิงรุก ก็หวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำความจริงให้ปรากฏ

“เรามีกล้องซีซีทีวีเต็มเมือง จากประสบการณ์ของผม เชื่อว่าถ้าเป็นคดีอื่นๆ วันเดียวจับคนร้ายได้แล้ว และยิ่งพื้นที่มีนบุรีเป็นพื้นที่ที่บ้านผู้ใหญ่อยู่ ปกติมักจะมีข้าราชการไปประจำอยู่แล้ว วันนี้อยากฝากคนไทยว่าขอให้ทุกคนใจกว้างเรื่องความคิด ความเห็นต่างคือการพัฒนาและไม่ใช้ความรุนแรง” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

พ.ต.อ.ทวี สำหรับข้อเสนอที่จะให้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษนั้น จะต้องพิจารณาหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งช่องทางที่จะให้เป็นคดีพิเศษได้ คือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญ อุกฉกรรจ์ ที่ต้องหาความจริงให้ปรากฏ โดยทางครอบครัวสามารถยื่นเรื่องต่อดีเอสไอได้ ในฐานะที่เป็นผู้เสียหาย และจะสามารถเชิญข้าราชการหน่วยอื่นมาร่วมเป็นพนักงานสอบสวน และนำผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญมาเป็นที่ปรึกษาได้

ด้านนายสุนัย พาสุก ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์วอทช์ประเทศไทย กล่าวว่า ไทยมีพันธะกรณีที่ต้องคุ้มครองนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน แต่กรณีที่เกิดขึ้นผู้ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นกลับกลายเหยื่อของความรุนแรง และกังวลว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะกระทบกระเทือนต่อเรื่องของสิทธิมนุษยชนในไทย เพราะขณะนี้หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ รวมถึงฮิวแมนไรท์วอทช์ได้นำเสนอกรณีนี้เป็นกรณีเร่งด่วนแล้ว และจะมีการซักถามผ่านกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน