ส.ส.มหาสารคม พรรคเพื่อไทย ข้องใจ ประธานสภาผู้แทนราษฎร “ตีตก” ญัตติฝ่ายค้านสอบที่มา ส.ว.สรรหา

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ชี้เหตุผลที่ไม่บรรจุญัตติขอตั้งกรรมาธิการสอบสวนที่มาของ ส.ว.ว่าเกิดจากสับสนในสาระของญัตติเนื่องจากเริ่มต้นว่าขอสอบสวนแต่ลงท้ายว่าให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญว่า

ท่านชวนเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือไม่ท่านก็สับสนในตัวท่านเอง ความจริงคือเจ้าหน้าที่สภาฯ ตอบเป็นหนังสือมายังตน แจ้งว่าท่านประธานฯ มีบัญชาว่าสภาฯ ไม่มีอำนาจดำเนินการได้ตามมาตรา 129 ของรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นคนละเหตุผลกับที่ท่านชวนอ้าง ในความเป็นจริงฝ่ายค้านยื่นญัตติเรื่องเดียวกันไป 3 ญัตติคือของตน ของพรรคอนาคตใหม่ และ ของพรรคพลังปวงชนไทย มีเพียงญัตติของพรรคพลังปวงชนไทยเท่านั้นที่ใช้คำว่าส่งศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วนร่างของตนและร่างของพรรคอนาคตใหม่มิได้ใช้คำดังกล่าวซึ่งถือว่ามีความสมบูรณ์ หากนายชวนเห็นว่าร่างของพรรคพลังปวงชนไทยใช้คำสับสน ก็ไม่ต้องบรรจุญัตตินั้นเสีย ส่วนญัตติของตนและพรรคอนาคตใหม่ ก็สามารถบรรจุได้เพราะสาระต่างกัน

นายสุทิน กล่าวต่อว่า หนังสือที่ตอบมาว่าญัตติตนขัดมาตรา 129 จึงไม่บรรจุได้นั้น ตนยังมีความเห็นต่างว่าไม่ขัด สภาฯ สามารถตรวจสอบหน่วยงานใดที่ใช้งบประมาณแผ่นดินได้ และ คสช.เป็นองค์กรบริหารราชการแผ่นดินทั้งนิตินัยและพฤตินัยซึ่งความเห็นต่างนี้ตนจะต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อหาข้อยุติไว้เป็นบรรทัดฐานของสังคม สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตนเคลือบแคลงในเจตนาของท่านชวนคือ

  • 1.เหตุผลที่ท่านไม่บรรจุญัตตินี้คืออะไรแน่
  • 2.ปกติที่เคยปฏิบัติถ้าหากการเสนอญัตติมีถ้อยคำที่ไม่ตรงตามข้อบังคับหรือข้อกฎหมาย ทางสภาฯ ก็เลือกที่ใช้วิธีการเชิญไปปรับแก้หากตรงตามเจตนาก็จะบรรจุ ครั้งนี้ไม่มีแต่ตีตกเลย
  • 3.การพิจารณาญัตติใดๆ ตามข้อบังคับสภาฯ จะต้องแจ้งผลให้เจ้าของญัตติทราบว่าเป็นญัตติด่วนหรือไม่ภายใน 5 วันและบรรจุหรือไม่ภายใน 7 วัน

แต่กรณีนี้ใช้เวลา 10 วันซึ่งท่านทำผิดข้อบังคับชัดเจน นอกจากเคลือบแคลงแล้วผมยังเสียดายที่สภาฯ ควรจะมีบทบาทในการตรวจสอบและหาคำตอบที่ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยหรือไม่ก็มีทางออกที่รักษาไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของสภาฯ ประชาชน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน