“อนุทิน” เร่งดันกัญชาเสรีถูกกฎหมาย จับปากการอเซ็นนโยบาย หวั่นเสียงปริ่มน้ำ ทำรัฐบาลเจ๊งก่อนเวลา ย้ำ โควต้าปลูก 6 ต้น รัฐต้องแจกเมล็ดพันธุ์ ไม่ใช่ปลูกตามใจชอบ ยอมรับ เครียด ประชาชนคาดหวังสูง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ก.ค. ที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตรมช.สาธารณสุข และอดีตส.ส.ปราจีนบุรี นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ รองเลขาธิการพรรค นพ.สำเริง แหยงกระโทก อดีต ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ และ คณะ
เดินทางมาเยี่ยมชมการใช้กัญชาทางการแพทย์ และเยี่ยมชมแปลงปลูกกัญชาระบบรากลอยในตู้คอนเทนเนอร์ และบริเวณโดยรอบที่เตรียมสำหรับการปลูกระบบบนดิน (Green House) พร้อมทั้งดูการสกัดกัญชาโดยใช้เครื่อง Super critical CO2 extraction และเยี่ยมชมตึก GMP อาคารที่ใช้สำหรับผลิตสมุนไพรและกัญชา โดยมีนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และ นพ.นำพล แดนพิพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้การต้อนรับ
นายอนุทิน กล่าวว่า การมาติดตามความคืบหน้าการดำเนินการใช้กัญชาทางการแพทย์ที่นี่ เพื่อหาองค์ความรู้ต่อการผลักดันการใช้กัญชาทางการแพทย์ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน โดยเห็นว่าการผลักดันเรื่องนี้จะอาศัยเพียงภาคการเมืองฝ่ายเดียวอาจไม่สำเร็จ ต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสถาบัน และโรงพยาบาล อย่างรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นกับการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค และย้ำว่ากัญชาเสรีที่พรรคภท.ผลักดัน คือ เสรีเพื่อการแพทย์เป็นหลัก และจะไม่มีการเอื้อทุนธุรกิจใดๆเด็ดขาด
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของนโยบายกัญชาเสรี ตนจะเป็นผู้ดำเนินการผลักดัน แต่ในส่วนของการปฏิบัติ ต้องขอให้ทางโรงพยาบาลอภัยภูเบศร เป็นผู้ช่วยปฏิบัติ ทั้งนี้ ยืนยันว่านโยบายนี้ไม่มีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝง ไม่มีการเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจของใคร เราทำทุกอย่างให้เกิดความผาสุกกับส่วนรวม หากสามารถทำนโยบายได้ คนไข้ก็จะเข้าถึงกัญชาได้ง่าย พกพาได้โดยที่ตำรวจไม่จับ
และเวลาเจ็บป่วยก็ไม่ต้องมาถึงโรงพยาบาล ทำให้ประหยัดค่าจ่าย และหากทำได้ ต้นทุนเรื่องการรักษาพยาบาลทุกอย่างก็จะลดลง การสนับสนุนให้แต่ละบ้านปลูกกัญชา ก็เพื่อให้สามารถนำมาใช้ในบ้านเพื่อรักษาตนเอง ใช้ในการสันทนาการ และนำมาขายได้ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เสริม หากทำแล้วได้ผลดีชัดเจนก็จะทำให้เราเป็นผู้ผลิต สร้างรายได้ให้แก่ประเทศในระยะยาว แต่ต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป
“ตอนนี้ผมรอเซ็นอนุมัตินโยบายอย่างเดียว และเชื่อมือโรงพยาบาลอภัยภูเบศร เราจะทำเพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชนให้มีสุขภาพที่ดี อย่างไรก็ตาม ผมขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วย แล้วช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมืองให้ดีที่สุด เราจะช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรให้พอดีแล้วใช้ชีวิตได้ นี่คือเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย” นายอนุทินกล่าว
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวอีกว่า ในเรื่องของการทำให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ ตนไม่เคยพูดว่าจะให้เป็นพืชหลัก แต่เป็นการทำให้ชาวบ้านหารายได้เสริม ส่วนเรื่องการต่อยอดการวิจัยพัฒนา มั่นใจว่าถ้าทำให้เรื่องนี้เป็นที่ยอมรับได้ จะมีคนแย่งเข้ามาทำ แต่สิ่งที่เราทำคือเริ่มต้นให้ได้ก่อน แล้วต้องมีคนมาต่อยอด
“สำหรับหน้าที่ผู้บริหาร คือ สอบถามฝ่ายประจำว่าต้องการอะไร เช่น งบประมาณ กฎหมายที่มาสนับสนุน ผู้บริหารจะไปสรรหามาให้ ผมยังใช้หลักนี้อยู่ อยู่กระทรวงมา 2-3 ครั้ง สิ่งที่ทำให้เข้ากับข้าราชการได้เป็นอย่างดี คือผมบอกว่าผมไม่ใช่หมอ สิ่งที่อาจารย์ต้องทำคืออธิบายสิ่งที่อาจารย์คิด และให้คนอย่างผมซื้อสิ่งที่ท่านทำ แล้วยืนรอที่หน้าห้องได้เลย ไม่มีดอง นี่คือสิ่งที่เราทำงานกันมาในสมัยนั้น มีเหมือนกันที่เสนออะไรโหลยโท่ย ผมก็ไม่เซ็น” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งนี้ ต้องอย่าลืมว่าสิ่งที่เรากำลังทำเกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาชาวบ้าน เรากำลังดีลกับคน 70 ล้านคน ซึ่งมากกว่าครึ่งเขามีความเชื่อมั่นในกัญชาสายพันธุ์ไทย ดังนั้น เราต้องพัฒนาเมล็ดพันธุ์ให้เกิดการยอมรับ มีการศึกษาวิจัยเพื่อให้มีสารทีเอชซีและซีบีดีในระดับที่เหมาะสม
โดยหากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมีความพร้อม ก็อาจเริ่มต้นที่นี่ โดยในอนาคต จะพัฒนาให้มีเทเลเมดิซีน เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนติดต่อเข้ามาขอคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์จากแพทย์และเภสัชกรที่คอยบริการ เพราะถ้าให้ประชาชนโทรศัพท์เข้ามาถาม บางทีก็รอจนแบตหมด ดังนั้น เราต้องคิดใหม่
“ทำทันให้ผมเซ็นหรือไม่ รัฐบาลเจ๊งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้มันปริ่มน้ำเหลือเกิน เพราะฉะนั้นต้องเร็ว ส่วนถ้าใครจะทำเป็นอุตสาหกรรมก็ให้รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน ทุกอย่างยากที่ก้าวแรกแต่ก้าวที่ 2 จะง่าย ส่วนที่พูดถึงเรื่องปลูกบ้านละ 6 ต้น ในใจคือคิดว่ารัฐจะแจกเมล็ด ไม่ใช่ให้ชาวบ้านปลูกตามใจชอบ ไม่อย่างนั้นก็มั่วสายพันธุ์ไปหมด
ไม่ใช่ว่าปลูกเสรี 6 ต้นแล้วต่างคนต่างปลูก แต่คนจะปลูกต้องขึ้นทะเบียน แต่วันนี้เมื่อข่าวมันออกไปไกล หลายคนเตรียมพื้นที่ที่บ้านไว้แล้ว มันเครียดนะ เพราะความคาดหวังของคนมันไปไกล เราจึงต้องตบกลับมา แต่ตอนนี้ก็ไม่ทัน จึงต้องทำให้เขาดู” นายอนุทินกล่าว
จากนั้น นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่าการลงพื้นที่เยี่ยมชมรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรในวันนี้ เนื่องจากเป็นที่ทำการวิจัยรักษาคนไข้ด้วยสารสกัดจากกัญชา และการที่พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายกัญชาเสรี จึงถือโอกาสมาศึกษาดูงานที่นี่ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับทางพรรคที่จะมุ่งมั่นผลักดันนโยบายกัญชาเสรี จนสามารถดำเนินการได้สำเร็จเป็นรูปธรรมให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ เท่าที่ทราบมาผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุขซึ่งตนได้พบตามงานต่างๆ ก็พร้อมให้ความร่วมมือในนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ขณะเดียวกันประชาชนต้องช่วยเราสนับสนุนด้วย เท่าที่ดูมีคนสนับสนุนมาก ส่วนคนที่ต้านก็ไม่ใช่จะปฏิเสธเลย เพียงแต่กังวลเรื่องของยาเสพติด ซึ่งเราอธิบายได้ถึงประโยชน์ของกัญชาว่ามีมากกว่าโทษ และมีการควบคุมโดยกฎหมาย รวมถึงเป็นการสร้างรายได้