“ปิยบุตร” จัด 18 ส.ส.อนาคตใหม่ อภิปราย เจาะตัวนโยบายเป็นหลัก ยกยอดเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรี ไปจัดเต็มรอบหน้า ‘ประยุทธ์’ ไม่รอดโดนคนแรก เตรียมดันญัตติ ขับ ส.ว.ตามบทเฉพาะกาลออกไป

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่พรรคอนาคตใหม่ อาคารไทยซัมมิท นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ให้สัมภาษณ์ถึงการวางตัวส.ส.อภิปรายว่า จากการประชุมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้เวลาอภิปราย 13 ชั่วโมงครึ่ง โดย อนค.ได้ 260 นาที พรรคเตรียมผู้อภิปรายไว้ 18 คน ตนจะเป็นคนเริ่มอภิปราย เรื่องประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และการกระจายอำนาจ

จากนั้น น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล อภิปรายเรื่องนโยบายเศรษฐกิจทั้งหมด นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ เรื่องโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เรื่องนโยบายการเกษตร ปัญหาที่ดินทำกิน และปัญหาหนี้สินเกษตรกร พล.ท.พงศกร รอดชมภู เรื่องความมั่นคงและปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนนางวรรณวิภา ไม้สน พูดเรื่องแรงงาน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการมารดาประชารัฐ นอกจากนี้ยังมีเรื่องสิ่งแวดล้อม พลังงาน เศรษฐกิจดิจิทัล ที่เราเตรียมคนอภิปรายไว้อย่างสร้างสรรค์ ครบทุกมิติ

เมื่อถามถึงการแก้รัฐธรรมนูญนั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า จากที่อ่านนโยบาย พบว่ามีการกำหนดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเพียง 2 บรรทัด และไม่ได้ผูกมัดตัวเอง บอกเพียงว่าให้ศึกษา ทำความเข้าใจในการแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น ตนได้เตรียมอภิปรายถึงความจำเป็นและผลักดันให้ประเด็นดังกล่าวเข้มข้นมากกว่านี้ ส่วนคุณสมบัติของรัฐมนตรีนั้น เราไม่เน้นมากนัก จะเน้นที่ตัวนโยบายแต่ละด้านมากกว่า เพราะร่างนโยบายพูดถึงแง่ดีทั้งหมดและไม่ลงรายอะเอียดใดๆ ดูเหมือนเอานโยบายของหลายพรรคมาปะรวมกัน อนค.จึงจะเน้นการนำนโยบายเหล่านี้มาปฏิบัติว่าทำได้จริงหรือไม่ อย่างการต่อต้านทุนผูกขาด การแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือการท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม ที่ดินทำกิน

นายปิยบุตร กล่าวว่า นอกจากนี้จะขยายประเด็นรายละเอียดงบประมาณที่จะใช้ในโครงการต่างๆเพิ่มเติม หากยังจำกันได้ ตอนร่างรัฐธรรมนูญ ทุกคนกังวลว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกมาแล้วรัฐบาลจะเตรียมเรื่องนี้อย่างไร เพราะต้องเตรียมเม็ดเงินเต็มไปหมด แต่รัฐบาลชุดนี้ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว โดยเขียนแถลงนโยบายโดยไม่บอกงบประมาณก็ได้ หมายความว่ารัฐบาลชุดอื่นๆ ก็ทำได้เช่นกัน แต่ตนอยากให้ใช้มาตรฐานเท่าเทียมกัน ไม่ใช่วันหนึ่ง เมื่อเปลี่ยนครม. รัฐบาลชุดต่อไปต้องทำแบบเข้มงวด หรือแจกแจงรายละเอียดอย่างเต็มที่ ซึ่งที่เขียนมาก็ไม่ได้เขียนงบประมาณบรรจุไว้ มีเพียงแต่เขียนสั้นๆ เรื่องการเก็บภาษีเท่านั้น

นายปิยบุตรกล่าวว่า จากนี้อนค.จะผลักดันให้แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ต้องมีการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สส.ร.)ขึ้นมาเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ระหว่างนี้ เรื่องจำเป็นเร่งด่วนก็แก้ไขได้ก่อน โดยเฉพาะสิ่งที่เราเตรียมไว้ คือร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อรีเซ็ต ส.ว. นำเอา ส.ว.ที่มีวาระ 5 ปีตามบทเฉพาะกาลออกจากรัฐธรรมนูญให้ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นกลไกสืบทอดอำนาจ นี่คือเรื่องแรกที่เสนอ อีกเรื่องคือการยกเลิกมาตราสุดท้าย ที่รับรองความชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายการใช้อำนาจของ คสช.ทั้งหมด ซึ่งจำเป็นเร่งด่วนที่สุด และน่าจะหาฉันทามติได้รวดเร็ว

“ตอนนี้ อนค. มี ส.ส. 81 คน ซึ่งไม่พอจะเสนอญัตติดังกล่าว เราพยายามพูดคุยกับส.ส.พรรคอื่นๆให้ร่วมลงชื่อกัน ทุกคนทราบดีว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ยากมาก หรือเกือบเป็นไปไม่ได้ เพราะช่วงรับหลักการวาระที่ 1 ต้องมีส.ว.ลงชื่อร่วมด้วย 84 คน ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ แต่หากเราเสนอญัตติการแก้รัฐธรรมนูญเฉพาะเรื่องส.ว.ตามบทเฉพาะกาล

และแสดงให้ประชาชนเห็นว่า หากพวกเขาอยากแก้เรื่องนี้ โดย มีส.ส.กลุ่มหนึ่งที่พยายามให้มีการแก้ แต่มีส.ว.มาขวาง ก็ให้ประชาชนเห็นเลยว่า ใครเป็นคนขวาง หรือใครเป็นผู้เสียประโยชน์ ซึ่งเรื่องนี้จะผ่านหรือไม่ ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยทำให้เห็นว่า มติของมหาชนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ได้เข้าไปพูดในสภา” เลขาธิการอนค.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยบุตร ได้กำชับ ส.ส. ที่จะอภิปรายให้เน้นเนื้อหาสาระของร่างนโยบายเป็นหลัก ไม่วิจารณ์คุณสมบัติของรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เนื่องจากพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เตรียมพร้อมที่จะพูดเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยอนค.จะพูดเรื่องนี้อีกครั้ง ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ คือคนแรกที่อนค.จะซักฟอก เพราะเป็นผู้นำรัฐบาล


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน