ฝ่ายค้าน ชำแหละเดือด! ซัดรัฐบาล พาประเทศสู่หายนะ ปารีณา ประท้วงถอนคำพูด

เวลา 11.45 น. วันที่ 25 ก.ค. ที่หอประชุมบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ในการเข้าสู่การอภิปรายของฝ่ายค้านในวาระการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะว่าที่ผู้นำ ฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายว่า ภายใต้โลกาภิวัตน์ที่ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ความท้าทายจากสงครามการค้า การรับมือกับความท้าทายต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ

ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ปัญหาความถดถอย และอุปสรรคในการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชน ปัญหานักท่องเที่ยวที่ลดกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย รวมทั้งสภาพของรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำ เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งเตรียมมาตรการเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ

ตนไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถนำนโยบายที่นำเสนอในวันนี้แก้ไขปัญหาต่างๆให้กับประเทศได้ โดยวิเคราะห์จากความล้มเหลวของรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งหลายส่วนโดยเฉพาะในส่วนสำคัญ อาทิ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ล้วนเป็นแกนนำสำคัญของรัฐบาลชุดนี้

“คุณสมบัติ ความรู้ และความสามารถของรัฐมนตรี เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนไว้เข้มข้น รัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ต้องไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรง แต่พบว่ามีรัฐมนตรีหลายคนมีคดีติดตัวอยู่ บางคนมีคดียาเสพติด แต่รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายก็ออกมาแก้ต่างว่าความผิดที่เกิดขึ้นเกิดที่ต่างประเทศ” นายสมพงษ์ กล่าว

นอกจากนี้ เรื่องความเชื่อมั่นและความชอบธรรมในการบริหารประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาของชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจากการติดตามการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ ตนมั่นใจว่าประชาชนทั้งไทย และต่างชาติ ไม่ได้มีความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้เลยแม้แต่น้อย

“ไม่เชื่อมั่นว่าภายใต้นายกฯคนเดิม หัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนเดิม ครม.หน้าเดิมๆ จะสามารถแก้ปัญหาต่างๆให้ประเทศได้ การที่รัฐบาลชุดใหม่ยืนยันจะใช้บุคลากร และมาตรการเดิมๆ ที่ล้มเหลวมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีแต่จะนำประเทศไปสู่ความมืดมน และหายนะในที่สุด”

นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีศักยภาพเพียงพอในการนำเอานโยบายที่กำลังจะประกาศใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ประกอบด้วย 3 ความไม่ชอบธรรม ได้แก่ 1.การเข้าสู่อำนาจที่ขาดความชอบธรรม ใช้รัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นโดยพวกพ้อง เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการสืบทอดอำนาจของตัวเอง ถือเป็นการโกงอำนาจประชาชน

2.คณะรัฐมนตรีขาดความชอบธรรม และไม่มีคุณสมบัติที่จะบริหารประเทศ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และ

3.ตัวนายกฯก็ขาดความชอบธรรมในการที่จะเข้ามาผลักดันนโยบาย เพราะมีปัญหาด้านคุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่ง นอกจากนี้ยังล้มเหลวในการบริหารระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ประเทศเกือบเข้าสู่สภาวะล้มละลาย

การเมินเฉยต่อการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น และบิดเบือนกลไกกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง โกหกประชาชนและนานาชาติเรื่องการปฏิรูปการเมือง และการนำพาประชาธิปไตยกลับมาสู่ประเทศ ได้มาแต่เพียงประชาธิปไตยจอมปลอม หรือเผด็จการครึ่งใบ และการใช้เงินภาษีประชาชนไปกับกองทัพ

ทั้งหมดนี้ทำให้ตนมั่นใจว่านายกฯ และคณะได้ทำให้ประเทศเสียหายอย่างใหญ่หลวง และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำให้ไม่เชื่อว่านายกฯจะทำให้นโยบายเหล่านี้ประสบความสำเร็จได้

ในช่วงหนึ่งของการอภิปราย นายสมพงษ์ อ้างอิงคำพาดหัวของหนังสือพิมพ์ต่างประเทศที่นิยามประเทศไทยว่า Sick man of Asia ทำให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วงว่าใช้คำเสียดสีขอให้ถอนคำพูด

แต่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ผู้ประท้วงต้องประท้วงประธานว่าทำไมปล่อยให้พูดคำนี้ ประธานทำผิดหรือไม่ ไม่ใช่ประท้วงผู้อภิปราย ส่วนผู้อภิปรายถ้าพูดไม่จริงก็ชี้แจงแก้ไขได้ ส่วนถ้อยคำก็ไม่ได้ละเมิดอะไร จากนั้นได้ให้นายสมพงษ์อภิปรายต่อ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน