หมอชลน่าน จวก! ‘นโยบายซ่อนเร้น-โบราณ-ตั้งอุตตม’ ผู้นำมีปัญหา ประชาชนทุกข์ใจ
หมอชลน่าน – เวลา 14.40 น. วันที่ 25 ก.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลทำนโยบายแบบซ่อนเร้น ปิดบังรัฐสภา เพราะขาดเป้าหมายและความสำเร็จที่ชัดเจน ทั้งนี้ ในนโยบายหลัก 12 ด้านและนโยบายเร่งด่วน 12 เรื่องไม่พบเป้าหมายความสำเร็จ ขาดความรับผิดชอบต่อประชาชน และเป็นการเขียนนโยบายที่ถูกวิจารณ์ว่าย้อนยุค
ภาษาเหนือเขาเรียกว่าเหมือนหน้าไม้ยิงดิน ยิงไปตรงไหนก็โดนดิน ส่วนตัวมองว่าการเขียนนโยบายดังกล่าวอาจขัดกับรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่ว่าด้วยหลักธรรมาภิบาล การบริหารบ้านเมืองที่ดี ซึ่งต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ประชาชนมีส่วนร่วม การทำนโยบายให้ประสบความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถือเป็นความผาสุกของประชาชน
ขณะนี้ประเทศชาติเราเป็นเหมือนรถยนต์คันใหญ่ที่ 5 ปีที่ผ่านมาไม่เคยซ่อมบำรุงเลย การขับเคลื่อนนโยบายหัวหน้าคนขับต้องมีความรู้ แต่ทั้งหมดขณะนี้ไม่มีความมั่นในความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะในคุณสมบัติ
ในระหว่างการแถลงนโยบาย ผมอ่านข้อความผ่านทวิตเตอร์พบคำถามของหลายคน ถามว่าฟังไม่ชัด ลิ้นเป็นอะไรหรือไม่ ป่วยหรือไม่ รวมถึงแสดงความสงสารเยาวชนที่เรียนภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ซึ่งสะท้อนถึงภาวะผู้นำและความสามารถของการบริหารจัดการ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นอาจจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธาและความเชื่อมั่นต่อการนำประเทศไปสู่การพัฒนา
นอกจากนั้นยังพบการกระทำที่ละเลยต่อมาตรฐานจริยธรรม คือ การแต่งตั้งบุคคลที่อาจจะขัดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่ง คือ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ที่มีคดีที่เกี่ยวกับการปล่อยกู้เงินของธนาคารกรุงไทยให้กับเครือกฤษดามหานคร กรณีดังกล่าวพบว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องถูกดำเนินคดียกเว้นนายอุตตม ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจจะเกี่ยวกับการให้การเท็จต่อศาลหรือไม่
“ผมเชื่อว่านโยบายที่ไม่ชัดเจนและพฤติกรรมผู้นำที่มีปัญหา จะทำให้ประเทศไม่ได้รับประโยชน์สูงสุดและประชาชนไม่มีความสุข” นพ.ชลน่าน กล่าว
จากนั้นนายอุตตมใช้สิทธิพาดพิงกรณีการปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานครว่า กรณีการปล่อยกู้ดังกล่าว ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 26 ส.ค.2558 โดยมีผู้ต้องโทษ 25 ราย เป็นที่น่าเสียดายและน่าเศร้าที่มีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงว่าตนทำความผิด เพื่อให้ตนเกิดความเสียหายหลายครั้ง
โดยพยายามทำให้เกิดความไม่ชัดเจน กังขาว่าเหมาะที่จะเป็นรมว.คลังหรือไม่ ทั้งนี้ ในฐานะนักการเมืองและบุคคลสาธารณะ พร้อมให้มีการตรวจสอบ เมื่อคนไม่ผิดมาแต่เดิมแล้วจะมาให้ผิดตอนนี้ได้อย่างไร การปล่อยกู้ดังกล่าวมีการไต่สวนมาแล้วในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวจะขอชี้แจงในรายละเอียดอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าจะมีผู้อภิปรายตนในเรื่องนี้อีก
