องครักษ์ทำงาน! ‘กรุง ศรีวิไล’ นำทีมรุมสกัด โรม ขู่มีนักการเมืองแบบนี้ รัฐประหารแน่
เวลา 19.45 น. วันที่ 25 ก.ค. นาย รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวอภิปรายว่า ก่อนหน้าหากตนออกมาพูดแบบนี้คงถูกพาตัวไปเรือนจำที่ใดที่หนึ่ง เชื่อว่าการแถลงวันนี้คงไม่ได้รับคดีความ แม้นายกฯ จะจดชื่อไว้แล้วก็ตาม ตอนนี้พบว่าคนที่เป็นนายกฯ คือคนที่มีส่วนสำคัญในการยึดอำนาจ เราต้องพิจารณาคุณสมบัตินี้ และสิ่งที่ต้องการก็คือ ตนไม่เชื่อว่านโยบายของรัฐบาลนี้จะเกิดขึ้นได้จริง
ส่วนแรกคือ ในวันที่พล.อ.ประยุทธ์มาที่รัฐสภา มาแต่งตั้งคนของตัวเองเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ที่เป็นน้องชายให้มาเป็น ส.ว. นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยังรับเงินเดือนสองทาง รวมเวลา 5 ปี ได้รับเงินไปทั้งหมด 15.3 ล้านบาท
ส่วนที่สอง คือ ปล่อยปะละเลยให้มีการทุจริตและคอร์รัปชั่น ปล่อยให้ลูกของพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ส.ว. ที่เรียนจบนิเทศศาสตร์มาเป็นทหาร และให้หลานชายมารับเหมาโครงการก่อสร้างขอทหาร อีกทั้งให้รุ่นพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ บินไปฮาวาย กินอาหารหรู เช่น ไข่ปลาคาเวีย ในขณะที่ประเทศไทยเศรษฐกิจตกกต่ำ และเรื่องที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุววรณ รองนายกฯ ที่เข้าใจว่ามีนาฬิกามากกว่า 22 เรือน ราคาแพง
ซึ่งเชื่อว่าคนที่รับราชการคงไม่มีเงินได้ซื้อได้ขนาดนี้ และพี่ชายอีกคนที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ได้เซ็นยกที่ดินป่าชุมชน ให้เป็นนายทุน และจัดซื้อเครื่องจับความเร็ว
นายรังสิมันต์ อภิปรายต่อว่า รัฐบาลที่แล้วซึ่งเป็นคนกลุ่มเดียวที่ประชาชน ตั้งคำถามเรื่องการคอร์รัปชั่นมากที่สุด แต่นโยบายของรับบาลนี้ที่ต้องการจะแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น เมื่อเป็นเช่นนี้จะแก้ไขได้อย่างไร ขณะตัวท่านยังแก้ไม่ได้ ทั้งหมดนี้ต้องการชี้ให้เห็นการทุจริตคอรัปชั่น และฝากไปถึงคณะรัฐมนตรีว่า ปัญหาของไทย ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้ว่ามีปัญหาคอรัปชั่น
แต่คือเมื่อเรารู้แล้วเราจะจัดการปัญหานี้อย่างไร เพราะคนใกล้ชิดของรัฐบาลชุดที่แล้วกลไกยุติธรรมก็ไม่สามารถจัดการได้ สุดท้ายอยากฝากคำถาม และพล.อ.ประยุทธ์ ต้องตอบ อยากถามว่าท่านยังจะอยากรัฐประหารอีกหรือไม่
ทำให้บรรดาองค์รักษ์พิทักษ์พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นประท้วงให้ถอนคำพูดในลักษณะเสียดสี อาทิ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงว่า ถ้าเป็นแบบนี้ มีนักการเมืองเเบบนี้ “ผมบอกเลยว่า มีรัฐประหารเเน่นอนครับ” เรียกเสียงฮือฮาในห้องประชุม
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้เเจงด้วยน้ำเสียงที่ขึงขัง ว่า “รัฐประหารที่ผ่านมาผมไม่อยากทำ” แต่สถานการณ์ขณะนั้นหากไม่ยุติจะบานปลาย ตนไม่ได้เตรียมการมาก่อน อยากให้เคารพกฎหมายไม่ใช่อภิปรายไปเรื่อย ความเสียหายจำนำข้าวว่ามีเท่าไหร่ ตัวเลขคดีอาญาอยู่ที่ 1,162 คดี ส่วนตัวเลขคดีอาญาในชั้นอัยการสูงสุด 871 คดี ส่วน อตก.291 คดี จึงอยากถามว่าเรื่องนี้อยู่ที่ไหน
ส่วนนายคารม พรพลกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ลุกขึ้นประท้วง แต่พล.อ.ประยุทธ์ ชี้หน้าไปยังที่นั่งของสมาชิกรัฐสภา พร้อมกล่าวน้ำเสียงขึงขังว่า คุณด้วย ไม่ต้องพูด คุณเกี่ยวข้องอยู่เเล้ว ก่อนที่ประธานจะปล่อยให้นายคารม ประท้วง
โดยนายคารม กล่าวว่า อยากกำชับพล.อ.ประยุทธ์ ว่าที่นี่คือสภาฯ เป็นที่รวมของตัวเเทนประชาชน ไม่ใช่ค่ายทหารต้องระมัดระวังนิดนึง แต่พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ตนก็มาจากประชาชน 9 ล้านกว่าเสียงเหมือนกันที่เลือกเขามาเป็นนายกฯ
