เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.สมุทรสาคร กล่าวถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ กล่าวตั้งคำถามนายกรัฐมนตรี หลังพบว่าการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญในขั้นตอนการกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ ใช้ถ้อยคำไม่ครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
โดยนายสมชัยกล่าวว่า มาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ 2562 ระบุว่า ก่อนเข้ารับหน้าที่ รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้
“ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”
ผมฟังข่าว อ.ปิยบุตร อภิปรายในสภา ตอนแรกยังคิดว่าท่านดูข่าวที่อาจจะนำเสนอไม่ครบ พอมาดูข่าวช่อง 3 ถึงเห็นว่าเป็นจริงว่าตกบรรทัดสุดท้าย ”ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” ไปทั้งบรรทัด
งานนี้ ที่ปรึกษา กม. หรือ รองนายกด้าน กม. ต้องตอบให้ดีแล้ว ว่าจะดำเนินการอย่างไร
นายสมชัย กล่าวต่อว่า คำปฏิญาณที่เขียนไว้ 3 บรรทัดในรัฐธรรมนูญ เป็นเนื้อหาสำคัญที่คณะรัฐมนตรี ต้องกล่าวให้ครบถ้วน มิฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ การที่นายกฯ กล่าวไม่ครบ 3 บรรทัด ขาดบรรทัดหลักที่ว่า ”ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” อาจจะเป็นด้วยหลายสาเหตุ เช่น
– ผู้ร่าง ร่างข้อความไม่ครบ
– ผู้ร่าง ร่างให้แล้ว แต่นายกฯกล่าวไม่ครบเอง
– ไม่มีผู้ร่างให้ เนื่องจากเป็นข้อความที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญแล้ว และเห็นว่านายกฯ เคยถวายสัตย์มาแล้ว น่าจะไม่พลาด
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่การกล่าวให้ครบถ้วน เรื่องนี้คงเป็นประเด็นใหญ่ที่ต่อเนื่อง ไม่จบด้วยคำพูดง่ายๆ ว่า ก็ผ่านไปแล้ว เพราะข้อความถวายสัตย์ฯ ที่ขนาดเขียนชัดเจนในรัฐธรรมนูญแล้ว คงมิใช่ให้นายกฯ คนใด อยากจะอ่านอะไรหรือจะกล่าวถ้อยคำใดก็สามารถอ่านหรือตัดตอนได้ตามใจชอบ
มิเช่นนั้น จะเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญทำไม