‘ปิยบุตร’ เผย ‘ประยุทธ์’ คือคนเดียวในประวัติศาสตร์ไทย ถวายสัตย์ไม่ครบ ยืนยัน ผิดรัฐธรรมนูญ “จาตุรนต์” ลั่น เรื่องนี้ยังไม่จบ
วันที่ 5 ส.ค. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการนำถวายสัตย์ของนายกรัฐมนตรีที่ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายๆ พรรคก็ช่วยกันพูดมาตลอด ท้ายที่สุดก็ยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัด คาดว่าในช่วงสัปดาห์นี้ที่สภาเปิดประชุม อาจจะต้องใช้กลไกในการซักถาม
ทางพรรคอนาคตใหม่รวมถึงพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย มีเพียงเจตนาให้หาวิธีแก้ไขให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ บรรทัดฐานจะได้เกิดขึ้น หากปล่อยไปจะกลายเป็นบรรทัดฐานต่อไปที่จะไม่ต้องกล่าวให้ครบ ตนคิดว่าไม่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นในรูปแบบกระทู้สด หรือยื่นญัตติ เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า วันอังคารนี้ (6 ส.ค.) จะมีการประชุมวิป 7 พรรคฝ่ายค้าน ส่วนจะยื่นต่อประธานสภาหรือไม่ทางฝ่ายค้านก็ศึกษากันอยู่ ว่าจะดำเนินการต่างๆ อย่างไร แต่องค์กรที่มีอำนาจในการตีความ คือคณะรัฐมนตรี อย่างน้อยที่สุดหากประเมินแล้วว่ากล่าวไม่ครบ ต้องหาทางแก้ไขให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าหากยังยืดเยื้อต่อไป ตนมองว่าท้ายสุดต้องคงต้องให้องค์กรวินิจฉัยออกมาให้ได้ว่าสุดท้ายบรรทัดฐาน และความถูกต้องควรเป็นแบบไหน
นายปิยุบตร เปิดเผยอีกว่า หากต้องยื่นต่อองค์กรอิสระก็ต้องหารือร่วมกันอีก ตนไม่ใช่เจ้าของประเด็น หากเป็นองค์กรอื่นๆ ถวายสัตย์ไม่ครบจะเป็นอย่างไร ในอดีตไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ที่ปฏิญาณผิด อยากให้เกิดบรรทัดฐานที่ถูกต้อง
“ทั้งนี้อยากฝากถึงรัฐบาล ว่าไม่มีใครรู้ ถ้ามีมติ ครม. ออกมา แล้วเกิดมีผู้เสียหายไปฟ้องเพื่อถอนมติ ครม. โดยอ้างว่ามตินั้นมิชอบ เนื่องจากการที่นายกฯ นำถวายสัตย์ไม่ครบ หากเป็นแบบนี้คงวุ่นวายแน่นอน คงต้องพยามช่วยกันหาทางออกต่อไป” นายปิยุบตร กล่าว
ด้าน นายจาตรุนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนี้เช่นกัน โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
เรื่องนี้ยังไม่จบ
ที่ประยุทธ์พูดถึงการกล่าวคำถวายสัตย์ไม่ครบล่าสุด ฟังดูเหมือนจะเป็นการพูดกับขุนทหารด้วยกันแบบทหารพูดกับทหาร มากกว่าที่จะตั้งใจให้ประชาชนฟัง แต่เมื่อประชาชนฟังแล้ว ผมคิดว่าคนคงรับไม่ได้กันเยอะและเรื่องคง “ไม่จบ” ง่ายๆอย่างที่ประยุทธ์ต้องการ การไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญในการกล่าวไม่ครบและการแสดงเจตนาว่าต่อไปอาจไม่ทำตามรัฐธรรมนูญก็ได้ด้วยนั้นเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมีข้อยุติที่เป็นบรรทัดฐาน ไม่ใช่ให้จบไปง่ายๆ
พลเอก ประยุทธ์บอกว่า “..ข้อความที่กล่าวไปนั้นถือว่าเป็นข้อความที่ครอบคลุมทั้งหมดในการดูแลประชาชนคนไทยทั้งหมด..” หมายความว่าที่กล่าวไปนั้นเป็นการตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ และเห็นว่าไม่จำเป็นต้องพูดตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ซึ่งคงใช่ ก็เท่ากับเป็นการจงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ
การที่พลเอกประยุทธ์ พูดยกกฎหมายลูก สำคัญกว่ารัฐธรรมนูญนั้น สะท้อนว่า พลเอกประยุทธ์ไม่ได้เห็นความสำคัญของรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะเขาเป็นคนฉีกรัฐธรรมนูญมากับมือ และมีอำนาจอยู่เหนือรัฐธรรมนูญมาตลอดตั้งแต่ยึดอำนาจมาจนถึง วันที่ คสช.หมดไป อำนาจเผด็จการของคสช.หมดไป อำนาจเผด็จการรูปแบบอื่นๆยังคงอยู่ ที่สำคัญจิตสำนึกที่เป็นเผด็จการยังคงอยู่อย่างชัดเจน
