‘บิ๊กตู่-ครม.’ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ชูศักดิ์ชี้ถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน ต้องมีองค์กรชี้ขาด แยกประเด็นกฎหมาย-การเมือง

ถวายสัตย์ – วันที่ 9 ส.ค. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคและประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวแสดงความรับผิดชอบการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งว่า เรื่องนี้ชัดเจนว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 ซึ่งเป็นหน้าที่ขององค์กรที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณาว่าการกระทำมีผลสมบูรณ์ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแล้วหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่า การเข้ารับตำแหน่งจะสมบูรณ์ต่อเมื่อมีการถวายสัตย์ปฏิญาณ แต่ปัญหาขณะนี้คือยังไม่รู้ว่าองค์กรใดจะออกมาชี้ขาด โดยอาจจะเป็นรัฐสภา ศาลรัฐธรรมนูญที่ต้องผ่านช่องทางผู้ตรวจการแผ่นดิน

นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อมีความผิดสำเร็จเกิดขึ้นแล้ว ความรับผิดชอบที่จะต้องพิจารณามี 2 ทาง คือ 1.ความรับผิดชอบทางการเมือง ซึ่งขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของคนๆนั้นว่าจะทำอย่างไร จะลาออกหรือไม่ หรือจะรับผิดชอบอย่างไร และ 2.ความรับผิดชอบทางกฎหมาย เมื่อการปฏิญาณไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่แค่ตัวนายกฯ เพียงคนเดียว แต่รวมถึงครม.ต้องรับผิดชอบร่วมกัน

ส่วนจะมีผลถึงครม.ชุดนี้ด้วยหรือไม่นั้น มีนักกฎหมายหลายคนเห็นว่า หากการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ก็ถือว่าไม่สามารถปฏิบัติหน้าได้

ด้านนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพท. เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวนั้น ตนเสนอว่าการลาออกจากนายกฯ เป็นการแสดงความรับผิดชอบที่ดีที่สุด จะส่งผลให้รัฐมนตรีอีก 35 คนพ้นจากตำแหน่งไปด้วย การปฏิบัติหน้าที่ก็สิ้นสุดลงกลายเป็นรัฐบาลรักษาการ จากนั้นเริ่มต้นการเลือกนายกฯกันใหม่

รองหัวหน้าพท. กล่าวว่า หนทางนี้จะช่วยให้ข้อกังขาจากหลายฝ่ายที่อาจกลายเป็นวิกฤต คลี่คลายลงได้ หากยังดื้อดึงแล้วใช้อำนาจบริหารต่อไป สั่งการต่างๆ โยกย้ายข้าราชการ ใช้จ่ายเงินงบประมาณ จะยิ่งสร้างปัญหาและบานปลายเกินกว่าจะแก้ไขเยียวยาได้ และหากมีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นในการบริหาร พล.อ.ประยุทธ์และครม.ทั้งคณะไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ทั้งทางกฎหมายและทางการเมือง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน