“ธนาธร” ตั้งกระทู้นอกสภา จี้ “สุริยะ” แก้ปัญหาแปรรูปยาง โชว์แนวคิดใช้เงินน้อย แต่มีคุณภาพ

วันที่ 22 ส.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหายางพาราที่ตกต่ำ พร้อมเสนอแนวทางแก้ปัญหาความว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสเยี่ยมชมสหกรณ์กองทุนสวนยางโสตประชา ต.บางขัน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช และสหกรณ์แพรกหา ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ทั้งสองสหกรณ์เป็นสหกรณ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณกลุ่มจังหวัด ในรูปแบบการลงทุนเป็นเครื่องจักรแปรรูปยางพาราจากรัฐบาล

โสตประชาได้รับเครื่องจักรที่ผลิตจากไต้หวันและจีน เพื่อแปรรูปยางสดเป็นยางปูพื้นอเนกประสงค์ เป็นวงเงิน 21 ล้านบาท ขณะที่แพรกหาได้รับเครื่องจักรที่ผลิตจากเยอรมนีเพื่อแปรรูปหมอนยางจากยางพารา เป็นจำนวนเงินประมาณ 30 ล้านบาท

ทั้งสองสหกรณ์กู้เงินลงทุนอีกหลักสิบล้านเพื่อลงทุนให้ครบ ซื้อที่ดิน, สร้างโรงงาน, อุปกรณ์ทดสอบ และใช้เป็นเงินหมุนรอบวัตถุดิบ กรรมการสหกรณ์ และคนในชุมชนตื่นเต้นเต็มไปด้วยความหวังว่าชีวิตของเขาจะดีขึ้นจากโครงการดังกล่าวเมื่อสามปีที่แล้ว

ในชุมชนที่ไม่เคยจัดการโรงงานอุตสาหกรรมสมัยใหม่เลย การยกเครื่องจักรให้แล้วคาดหวังว่าเครื่องจักรเหล่านั้นจะออกดอกออกผลด้วยตัวเองไม่เป็นจริง สหกรณ์ทั้งสองยังการขาดสนับสนุนเรื่องการจัดการโรงงาน, การตลาด และการประสานงานกับหน่วยงานของภาครัฐอีกมาก

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ที่โสตประชา ผลิตภัณฑ์ยังไม่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ มอก. เมื่อยังไม่ผ่าน จึงไม่สามารถประมูลงานจากภาครัฐได้ เครื่องจักรและเงินลงทุนที่ใช้มา ปัจจุบันจึงไม่เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเลย กรรมการสหกรณ์เริ่มท้อใจหลังจากพยายามมาหลายปี หนี้สินที่กู้ยืมมาเริ่มถึงงวดชำระ หากสหกรณ์ไม่สามารถสร้างยอดขายได้ในเร็ววัน อาจจะต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

ความหวังกลายเป็นความทุกข์ เครื่องจักรที่ควรจะนำมาซึ่งงานและมูลค่าเพิ่มกลายเป็นตัวถ่วง การขาดทุนของฝ่ายโรงงานพื้นยาง ดึงกินกำไรจากกิจการอื่นของสหกรณ์ไปหมด (เช่น กิจการร้านค้า, ค้าขายเครื่องมือสินค้าการเกษตร, และการรวมปาล์ม, ยาง เพื่อขายรวมกลุ่ม) ทำให้ภาพรวมสหกรณ์ขาดทุนหลายล้านบาทต่อปี

ข้อเสนอก้าวต่อไปของโสตประชาคือ ภาครัฐต้องปรับงบดุล ยืดหรือลดการเงินต้นออกไป สนับสนุนงบประมาณก้อนใหม่เพื่อเปิดแม่พิมพ์สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีตราสินค้าเป็นของตัวเอง ยืดช่องค่ามาตรฐานอุตสาหกรรมให้กว้างขึ้น และประกันคำสั่งซื้อจากหน่วยงานภาครัฐในช่วงสามปีแรกเพื่อให้องค์กรเดินไปได้

ระยะกลางต้องลงทุนสร้างเว็บไซต์และเริ่มจัดจำหน่ายด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งคำสั่งซื้อจากหน่วยงานภาครัฐ และไม่ต้องมีหน้าร้านที่เป็นต้นทุนคงที่, ลงทุนในการสร้างทีมการตลาด และทีมบริหารที่เป็นมืออาชีพ ส่วนระยะยาว ผลักดันให้มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น, หลากหลายขึ้น และใช้เทคโนโลยีมากขึ้น

ที่แพรกหา สถานการณ์ดีกว่าที่แรก สหกรณ์เริ่มดำเนินการแล้ว และสามารถสร้างยอดขายให้ตัวเองได้ สหกรณ์สามารถจ้างงานในท้องถิ่นได้ถึง 25 คน ยังไม่รวมการจ้างงานในชุมชนเพื่อเย็บผ้าคลุมหมอนหรือที่นอน สหกรณ์สามารถสร้างยอดขายต่อปีได้ปีละ 10 ล้านบาท ขาดทุนประมาณปีละ 1 ล้านบาท มีการทำงานร่วมกับ MTEC และ สวทช. วิจัยสูตรการผสมยางที่เป็นเทคโนโลยีของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม สหกรณ์ยังสามารถพัฒนาได้อีกเยอะ และภาครัฐสามารถสนับสนุนได้ทันที เช่น การประกันยอดขายจากหน่วยงานรัฐในช่วงสองสามปีแรก, ร่วมส่งนักวิจัยมาประจำเพื่อลดของเสีย หรือเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ และการเพิ่มศักภาพของพนักงาน ทั้งทางเทคนิคและการบริหาร เช่น การบำรุงรักษาเครื่องจักรซึ่งต้องใช้ความรู้ทั้งเรื่องเครื่องกลและไฟฟ้า

ลองจินตนาการตามผมดูว่า ถ้าทั้งสองแห่งสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเต็มกำลังการผลิต เด็กนักเรียนได้มีพื้นรองสนามเด็กเล่นที่มีคุณภาพและปลอดภัย ในพื้นที่ที่จำเป็นหรือเหมาะสมของหน่วยงานรัฐ มีพื้นรองเดินที่นุ่มและได้คุณภาพ มีพรมละหมาดลวดลายปราณีตทำจากยางพารา ผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้นอนบนหมอนและเตียงยางพาราที่มีคุณภาพสูง อายุการใช้งานยืนยาว

ต่อไปทั้งคนนครฯ และคนพัทลุง จะมีโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรที่ก้าวหน้า, มีการจ้างงานในพื้นที่ ลูกหลานไม่ต้องไปหางานทำที่อื่น, มีตราสินค้าเป็นของชุมชนเอง เศรษฐกิจชุมชนจะพัฒนาไปมากแค่ไหน

ที่โสตประชา ถ้าเดินงานหนึ่งกะ หรือ 8 ชั่วโมง จะใช้ยางประมาณวันละ 2 ตัน พื้นยางอเนกประสงค์ขายได้ที่มูลค่าต่อน้ำหนัก กิโลกรัมละ 75 บาท ขณะที่น้ำยางสดราคากิโลกรัมละ 30 กว่าบาท เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า ขณะที่แพรกหา หมอนยางพารา ราคาต่อกิโลกรัมสูงถึง 300 บาท หรือเกิดมูลค่าเพิ่มขึ้น 10 เท่า

เงินทุนที่ลงทุนไปแล้ว และจมอยู่ในทั้งสองแห่งมีมากกว่า 100 ล้านบาท มีโครงการเช่นนี้อีกมากเท่าไหร่ ในประเทศที่ถ้าใส่ใจอีกนิด ใส่เวลา, เงินทุน และการสนับสนุนเพิ่มอีกหน่อย จะเกิดมูลค่ามหาศาลที่ยั่งยืน

ผมขอตั้งกระทู้นอกสภา ฝากไปยัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สนับสนุนพวกเขาต่อ อย่ามอบเรือให้พวกเขา แล้วปล่อยให้พวกเขาล่องลอยผจญคลื่นลมกลางทะเลอ้างว้างตามลำพัง การผลักดันสนับสนุนต่อตามข้อเสนอของผม ใช้เงินงบประมาณน้อยกว่าการอัดฉีดเงินในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเยอะครับ

อ่านต้นฉบับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน