เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 เม.ย. ที่รัฐสภา นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือถึงร.อ.ทินพันธุ์ นาคาตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ผ่านนายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผบ.กลุ่มงานประสานงานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อคัดค้านรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. ที่เสนอลดวาระการดำรงตำแหน่งของกำนันเหลือ 5 ปี และให้มีการประเมินผลการทำงานของผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปี
นายยงยศ กล่าวว่า องค์กรกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตั้งมา 127 ปี ไม่เคยมีรัฐบาลใดเสนอกฎหมายทำร้ายองค์กรกำนันผู้ใหญ่บ้านเช่นนี้ ทำให้เกิดความแตกแยกอ่อนแอในการปฏิบัติหน้าที่ จึงขอคัดค้านรายงานดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวาระการดำรงตำแหน่งของกำนัน ซึ่งไม่รู้ว่ามีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ หากให้กำนันอยู่ในตำแหน่ง 5 ปี จะทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง เกิดความไม่เกรงกลัว และเกิดความแตกแยกเลือกข้างในหมู่ประชาชน
การอ้างว่าถ้ากำนันอยู่ในตำแหน่งจนถึงอายุ 60 ปี จะสร้างอิทธิพลเป็นฐานเสียงให้พรรคการเมืองนั้น ไม่เป็นความจริง ถ้าเป็นฐานเสียงจริง การเลือกตั้งในภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์คงไม่ได้ส.ส.มากขนาดนี้ อีกทั้งขณะนี้ประชาชนมีความรู้ คนที่เป็นผู้นำไม่สามารถไปครอบงำได้ ยิ่งมีสื่อโซเซียลมีเดีย คอยติดตามการทำงานของกำนันผู้ใหญ่บ้านตลอด จึงไม่สามารถสร้างอิทธิพลอะไร อย่าเอาบริบทของการเมืองระดับชาติมาโยงกับเรื่องกำนันผู้ใหญ่บ้าน
นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นเรื่องการประเมินผลงานผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปีนั้น ความจริงกรมการปกครองมีการประเมินผลงานของผู้ใหญ่บ้านทุก 4 ปีอยู่แล้ว และยังมีมาตรา 14 (6) พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 คอยควบคุมการทำงานของผู้ใหญ่บ้าน สามารถเข้าชื่อลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ง่ายอยู่แล้ว ขอให้ไม่ต้องกังวล ยืนยันจะคัดค้านเรื่องดังกล่าวถึงที่สุด แต่คงไม่ถึงเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ เพราะผิดวินัย เนื่องจากกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่จะหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร
เบื้องต้นอาจจะไปรวมตัวกันที่ศาลากลางแต่ละจังหวัด เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดคัดค้านต่อไป ขณะนี้มีสมาชิกสปท.หลายคนติดต่อมาทางสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน แสดงความไม่เห็นด้วยกับการลดวาระการดำรงตำแหน่งของกำนันและประเมินผลการทำงานของผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปี
นายยงยศกล่าวต่อว่า ทางสมาคมฯ ขอเข้าฟังการอภิปรายของสปท.ด้วย แต่ ไม่ได้รับอนุญาต เพราะมีส่วนได้ส่วนเสีย ดังนั้นจึงจะขอคัดเทปการอภิปรายของสมาชิก เพื่อจะได้ทราบว่าแต่ละคนแสดงความคิดเห็นเป็นอย่างไร และนำไปให้สมาชิกได้รับทราบต่อไป
ส่วนที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา นำโดยนายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา นายกสมาคมฯ นำสมาชิกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา กว่า 300 คน เดินทางมาขอพบนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านกรณีที่ สปท.จะมีการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยเฉพาะเรื่องของการให้ลดวาระการดำรงตำแหน่งของกำนัน จากเดิมที่ให้มีวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงอายุ 60 ปี เหลือแค่วาระละ 5 ปี ซึ่งทำให้กำนันในพื้นที่รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
นายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า การมาเรียกร้องในครั้งนี้ เนื่องจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทั้ง 289 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน ไม่เห็นด้วยกับการที่ สปท.จะพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ลักษระการปกครองท้องที่ ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยให้กำนันมีวาระการดำรงตำแหน่งเพียงแค่ 5 ปี และยังมีการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปี เนื่องจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ใช่นักการเมือง ที่จะต้องลงพื้นที่หาเสียงเพื่อรับการเลือกตั้งทุก 5 ปี ซึ่งจะส่งผลเสียต่อระบบการปกครองท้องที่ จึงได้ส่งตัวแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านบางส่วน เดินทางยื่นหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อคัดค้าน สปท.เพื่อให้ระงับการพิจารณาเรื่องนี้ต่อไป
ต่อมานายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกมารับหนังสือด้วยตนเอง พร้อมกับยืนยันว่าขณะนี้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รับทราบเรื่องนี้จากสื่อต่างๆ แล้ว และได้สั่งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ ให้ชี้แจงกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านว่า ขั้นตอนนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของ สปท.เท่านั้น และยังมีอีกหลายขั้นตอน
รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นจากหลายส่วน กว่าจะผ่านออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้ ดังนั้นข้อเรียกร้องนี้ก็จะเป็นหนึ่งในความคิดเห็น ที่ตนจะนำเสนอต่อกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาต่อไป ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมา ถึงแม้ว่าจะเป็นจังหวัดใหญ่ แต่ก็มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่มีความเข้มแข็ง สามารถดูแลพี่น้องประชาชนให้มีความสงบสุขได้อย่างดียิ่ง จึงขอชื่นชมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกคน ดังนั้นจึงขออย่าได้กังวลเรื่องนี้
