หญิงหน่อย แขวะแรง! หลังบิ๊กตู่ “ขอยืม” นโยบาย 30 บาท ที่เคยดูแล ตอนเป็น “รัฐมนตรีสาธารณสุข” ไปอวดที่ UN

เมื่อวันที่ 26 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ภาพในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan” เป็นภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 2 ภาพ

โดยภาพแรกมีข้อความที่นายกฯ กล่าวเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2558 ว่า “วันนั้น..ที่ไทย” งบประมาณสาธารณสุขมันไม่พอ ไม่พอเพราะอะไร? เพราะท่านไปทำ…อะไรละ รักษาทุกโรคไงเล่า! ส่วนภาพที่ 2 นายกฯ กล่าวเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 ข้อความว่า “วันนี้ที่ UN ไทยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ดียิ่งขึ้น ให้ประชากรทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างเท่าเท่าเทียม” พร้อมข้อความว่า

#ยืมผลงานไปอวด ไม่ว่ากันค่ะ

แต่ขอให้จริงใจที่จะสนับสนุนโครงการ 30 บาท อย่างแท้จริงด้วย !!

ได้ยินข่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ ไปพูดถึงโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ในเวทีการประชุม UN โดยได้อวดถึงความสำเร็จ และประโยชน์ของโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค มีต่อประชาชนคนไทยอย่างคุณูปการ ให้เวที UN ได้รับฟัง ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข ผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคมาตั้งแต่เริ่มต้น ในรัฐบาลนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2544

ดิฉันดีใจนะคะ ที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้จาก พล.อ.ประยุทธ์ และยินดีที่ให้ยืมผลงานไปอวดอ้างในเวทีโลก อย่าง UN หาก พล.อ.ประยุทธ์ พูดอย่างจริงใจ และพูดด้วยความเข้าใจโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคอย่างแท้จริง ว่าเป็นโครงการที่ก่อเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างไร

เพราะตลอดระยะเวลา 5 ปีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้วิพากษ์วิจารณ์ในทางลบต่อโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคมาตลอด ทั้งกล่าวหาว่าเป็นโครงการประชานิยมที่ทำให้เกิดปัญหา เป็นนโยบายที่ประเทศอื่นยังไม่ทำเลย เป็นโครงการที่ไม่ถูกต้องบิดเบือน เป็นภาระต่องบประมาณ บลาๆ เพราะถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จริงใจ เข้าใจโครงการ 30 บาท และสนับสนุนโครงการ 30 บาทอย่างแท้จริง ก็จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างมากในฐานะที่เป็นรัฐบาลอยู่

ดิฉันได้พยายามอธิบายถึงหลักการ โครงการ และเป้าหมายของโครงการ 30 บาททุกครั้ง ที่ได้ฟัง พล.อ.ประยุทธ์ พูดตำหนิโครงการนี้อย่างไม่เข้าใจมาหลายครั้งแล้ว และวันนี้ขอพูดสั้นๆ ให้ฟังอีกครั้ง เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าใจหลักการของโครงการ 30 บาท เพื่อนำไปดำเนินการให้ถูกต้อง

เพราะตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี จากความไม่เข้าใจของผูน้ำได้ส่งผลในทางลบ ต่อการดำเนินงานของโครงการ 30 บาท ในหลายด้านทั้งคุณภาพการบริการ ทั้งการบริหารงบประมาณ ที่ทำให้แต่ละโรงพยาบาลขาดงบประมาณ ส่งผลให้ทั้งผู้ให้บริการ คือแพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุข และผู้รับบริการ คือประชาชนไม่มีความสุขทั้งสองฝ่าย

หัวใจของโครงการ 30 บาทมี 3 ประการคือ

1.เพื่อให้โอกาสคนไทย ได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างทัดเทียมทั่วถึง (HEALTH FOR ALL)
2.เพื่อมุ่งสร้างสุขภาพดีให้คนไทย แข็งแรง ก่อนป่วย (ALL FOR HEALTH)
3.เพื่อการจัดสรรงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ สามารถสะท้อนภาระของแต่ละสถานพยาบาล ที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน ที่สถานพยาบาลเรานั้นต้องดูแล

แต่ในระยะเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา เมื่อผู้นำไม่เข้าใจ และไม่ศรัทธาต่อโครงการ 30 บาทอย่างจริงใจ จึงส่งผลต่อการสนับสนุนโครงการ 30 บาท ทำให้คุณภาพของโครงการแย่ลง แทนที่จะเป็น HEALTH CARE จึงกลายเป็น SICK CARE ผลเสียจึงตกต่อประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข

เอาผลงานคนอื่นไปคุยนอกบ้าน เพื่อชื่อเสียงของประเทศ แม่ยอมปิดตาให้ข้างนึงค่ะ แต่หูทั้ง 2 ข้างที่ฟังลุงพูดอยู่ในประเทศ ลุงด่า 30 บาทไม่มีชิ้นดีอยู่ตลอดมา ขอฟังในแนวทางที่ชื่นชม แบบคนที่รัก และเข้าใจในหลักประกันสุขภาพ แบบที่ลุงไปพูดที่ UN ชัดๆ สักครั้งได้มั๊ยคะ


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน