นักข่าวสายทหารชื่อดัง เผย ตั้งชื่อห้อง “บวรเดช” เป็นห้องประชุม “บก.กองทัพบก”

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. “วาสนา นาน่วม” นักข่าวสายทหารชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ชื่อ ห้องใหม่ 2 ห้อง อาคารปรับปรุงใหม่ ตามไอเดียของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อาคารสรรพาวุธพิพิธภัณฑ์กองทัพบก โดยมี “บวรเดช” อยู่ด้านบน และข้างล่างมีชื่อห้อง “ศรีสิทธิสงคราม”

โดยชื่อ “บวรเดช” ทำให้นึกถึง “กบฏบวรเดช” ที่มี พันเอกพระยาศรีสิทธิสงคราม (ดิ่น ท่าราบ) แกนนำกบฏบวรเดชเมื่อปี 2476 พระยาศรีสิทธิสงคราม เป็นบิดาของ นางอัมโภชน์ ท่าราบ ซึ่งเป็นมารดา ของ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานท์ รักษาการประธานองคมนตรีคนปัจจุบัน

แต่ทว่า เหตุที่ ทบ.นำมาเป็นชื่อ ห้องประชุม ที่ปรับปรุงใหม่ ตามไอเดีย พลเอกประยุทธ์ ตอนเป็น ผบ.ทบ. นั้น ไม่ได้หมายถึง เหตุกบฏบวรเดช แต่เพราะ พระยาศรีสิทธิสงคราม เป็นนายทหารที่มีความจงรักภักดีอย่างที่สุด และไม่ได้ร่วมกับคณะราษฎร ในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เนื่องจากยึดมั่นในคำถวายสัตย์ฯนั่นเอง

สำหรับเหตุการณ์ “กบฏบวรเดช” นั้น เกิดขึ้นเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2476 นับเป็นการกบฏครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นความพยายามทวงคืนอำนาจการปกครองจากคณะราษฎรที่ยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 แต่กระทำการไม่สำเร็จ ถูกทหารฝ่ายรัฐบาลตีแตกพ่าย

โดยผู้นำการก่อกบฏครั้งนั้นคือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช อันเป็นที่มาของชื่อ “กบฏบวรเดช” โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้นายทหารฝ่ายกบฏ ได้แก่ นายพันเอก พระยาศรีสิทธิสงคราม (ดิ่น ท่าราบ) ถูกยิงโดยทหารฝ่ายรัฐบาล นำโดยพันตรีหลวงวีรวัฒน์โยธา เมื่อ 23 ตุลาคม








Advertisement

ส่วนพระองค์เจ้าบวรเดช และคณะ ขึ้นเครื่องบินเดินทางหนีไปยังเมืองไซ่ง่อน ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ก่อนต่อไปยังประเทศกัมพูชา และกลับมาประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2491 ขณะที่พระอนุชา (หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร) ถูกทหารจับกุมภายหลังได้มีการตั้งศาลพิเศษ

นายพันเอก พระยาศรีสิทธิสงคราม (ดิ่น ท่าราบ)

มีการคุมขังทหาร และพลเรือนผู้เกี่ยวข้องกับการกบฏครั้งนี้นับร้อยคน ที่เรือนจำบางขวาง แต่ไม่มีการประหารชีวิต และมีการพระราชทานอภัยโทษให้บรรดาผู้รับโทษประหารชีวิตเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต และผู้ได้รับโทษจำคุกก็ได้รับการลดโทษตามลำดับขั้น ในภายหลัง


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน