‘บิ๊กตู่’ ชี้แจงหลังส.ส.เพื่อไทยจวกเอาโครงการ 30 บาท ไปอวดยูเอ็น ยันพูดถึงโครงการประกันสุขภาพ ยืนยันว่ารัฐบาลนี้คิดเป็น ไม่ใช่ฟรีอย่างเดียว ด้าน “บิ๊กป๊อก” แจง เงินสะสม อปท.มีเเค่ 3 เเสนล้าน รัฐให้ท้องถิ่นใช้เงินจำนวนนี้ได้ ปัดละเลยปล่อยโกง
บิ๊กตู่ / เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายของนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่ื่อไทย เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา มีส.ส.พรรคพลังประชารัฐลุกขึ้นประท้วงเป็นระยะทั้งในส่วนของเนื้อหา และลีลาการอภิปรายของนายศรัณย์วุฒิ ที่ใช้น้ำเสียงดุดัน ซึ่งประธานฯในที่ประชุม อนุญาตให้นายศรัณย์วุฒิ อภิปรายต่อได้ เนื่องจากไม่ขัดต่อข้อบังคับการประชุม และยังอยู่ในกรอบการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ และเมื่อนายศรัณย์วุฒิ อภิปรายต่ออีกระยะหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้ยกมือเพื่อขอชี้แจง แต่นายชวน หลีกภัย ประธานในที่ประชุม ระบุว่าหลังจากนายศรัณย์วุฒิ อภิปรายเสร็จ จึงจะเปิดโอกาสให้นายกฯ ชี้แจง
ต่อมาเวลา 21.35 น. พล.อ.ประยุทธ์ ลุกชี้แจงว่า ตอนตนไปพูดที่ยูเอ็นไม่ได้พูดคำว่าโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่พูดถึงโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งรัฐบาลนี้ทำต่อมาจากครั้งที่แล้ว และคนที่ทำความเสียหายให้กับโรงพยาบาลต่างๆ นั้น เป็นรัฐบาลใครก็ไม่ทราบเหมือนกัน ตนเข้ามาพบว่าทุกโรงพยาบาลเงินสะสมขาดทั้งหมด
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
อย่างไรก็ตาม กว่าจะเป็นการประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีอีกหลายมาตรการที่มาด้วยกัน เช่น โรงพยาบาลสุขภาพประกันตำบล ซึ่งตนทำมาตั้งแต่ปี 2560 พัฒนาโรงพยาบาลประจำตำบล กว่า 7,000 โรงพยาบาล จากที่ไม่เคยดูแลกันมาเลย ส่วนเรื่องอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ที่ท่านบอกว่าอยากให้ค่าตอบแทนคนละ 10,000 บาท
อยากถามว่า อสม.มีจำนวนกี่ล้านคน ลองคูณตัวเลขมาแล้วกัน ตรงนี้ไม่ว่ากัน ตนก็อยากทยอยให้ไปเรื่อยๆ แต่วันนี้ต้องพัฒนา อสม.ที่สามารถดูแลผู้ป่วยติดเตียงได้ เป็นหมอประจำบ้านได้ ต้องพัฒนาต่อไป แต่อย่าเอาเรื่องนี้มาพูดหาเสียงตรงนี้ ตนไม่เห็นด้วยที่จะให้ทุกคนพูดถึงเรื่องการให้ค่าตอบแทนอะไรต่างๆ มากขึ้น
ถามว่าใครจะรับผิดชอบ รัฐบาลนี้จะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไปให้ดียิ่งขึ้น มากยิ่งขึ้น อย่างที่ท่านบอกจาก 30 บาท ตนก็พัฒนามาเป็นระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีการเข้ารักษาโรงพยาบาลเอกชน ที่เขายอมรับว่าไม่เคยคิดแบบนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลนี้คิดเป็น ไม่ใช่ฟรีอย่างเดียว
ต่อมา วลา 21.40 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย อภิปรายชี้เเจงถูกพาดพิงกรณีกระทรวงมหาดไทย ออกคำสั่งให้นำเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 6 แสนล้านบาท มาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ที่พูดเรื่องเงิน 6เเสนล้านบาทนั้น ตามข้อเท็จจริงของ อปท.กว่า 7,000 เเห่งทั่วประเทศ รวมมีงบอยู่ 3 เเสนล้านบาทเท่านั้น
ซึ่งเงินดังกล่าวเเม้ชื่อเป็นเงินสะสม เเต่ไม่ใช่เงินสะสม แต่เป็นงบประมาณที่ อปท.ใช้ไม่ได้ เเละใช้ไม่ทัน จึงทำให้มีเงินเหลืออยู่เเต่ละที่ไม่เท่ากัน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางแห่งคงเหลือหลักพันบาทก็มี อบจ.ใหญ่ๆ มีหลักร้อยล้าน ถึงพันล้านบาทก็มี เงินจำนวนนี้สามารถนำมาใช้ได้ตามอำนาจหน้าที่ของ อปท. แต่ต้องเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ในการบริการประชาชน ซึ่งมีกฎระเบียบอยู่เยอะ
รัฐบาลนี้ก็มีนโยบายให้อปท.นำมาใช้ได้ เเต่ต้องเป็นไปตามระเบียบของราชการเพื่อแก้ปัญหาของท้องถิ่นเอง เเต่ที่ผ่านมามีบางแห่งที่ใช้ได้หรือใช้ไม่ได้เช่นกัน ไม่ใช่ใช้ได้ทั้งหมด เงินจำนวนดังกล่าวเมื่อนำไปใช้เเล้ว มีการทุจริตหรือไม่ ตนยอมรับว่ามี แต่ตนไม่เคยปล่อย อปท.ที่ทุจริต ไม่ว่าจะทำผิดจากเรื่องใดก็เเล้วเเต่ จะต้องมีการลงโทษ ตนยืนยันให้ส.ส.และประชาชนรับทราบว่า มหาดไทยติดตามเรื่องการใช้งบนี้
