‘ธนาธร’ ผิดหวัง พ่ายศึกเลือกตั้งซ่อมนครปฐม ลั่น! คนอยู่อนาคตใหม่ เป็นเหล็กเนื้อดี เปรียบสถานการณ์และกาลเวลาเหมือนไฟ พร้อมทำลายสนิมติดดาบ วอนนักกฎหมายมหาชนช่วยส่องดูรัฐธรรมนูญ
เมื่อเวลา 09.55 น. วันที่ 24 ต.ค. ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม ที่ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่พ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า ไม่ว่าจะเป็นผลการเลือกตั้งนครปฐม หรือกรณีส.ส.พรรคหลายคนไม่ปฏิบัติตามมติพรรค ตนขอเรียนว่าสถานการณ์และกาลเวลาเหมือนไฟ เราจะต่อสู้กับเผด็จการหรืออำนาจที่ไม่เป็นธรรม ดาบนั้นจะต้องไม่มีสนิม ดังนั้นเมื่อผ่านสถานการณ์ ผ่านเวลา ไฟเหล่านี้จะเอาสนิมออกจากดาบเอง
“ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า 28,000 เสียงที่นครปฐม เป็นเหล็กเนื้อดี เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า 70 ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่เป็นเนื้อดี การเดินทางและสถานการณ์จะทำให้เหล็กของเรากล้าแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น มีแต่ความภาคภูมิใจที่ยังมีประชาชนยืนอยู่กับพรรคอนาคตใหม่กว่า 28,000 คน จึงไม่มีความกังวลใจอะไร เล็กเพื่อใหญ่ ล้มเพื่อลุก เราขอยืนยันจะทำงานทางการเมืองภายใต้ร่มของพรรคอนาคตใหม่ต่อไปให้มั่นคงและแน่วแน่” นายธนาธร กล่าว
เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีแคมเปญการเลือกตั้งซ่อมที่นครปฐม จะเป็นโดมิโนล้มเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ ผ่านคำพูดที่ว่า “ทนลุงไม่ไหวให้เลือกอนาคตใหม่” แต่เมื่อผลเลือกตั้งออกมากลับพบว่าพรรคอนาคตใหม่พ่ายแพ้ ได้วิเคราะห์แคมเปญนี้อย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า เราพ่ายแพ้เราก็ยอมรับ ทางพรรคชาติไทยพัฒนาทำงานได้เต็มที่ ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับพรรคชาติไทยพัฒนาด้วย
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ถามย้ำว่าผลเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้สะท้อนความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมว่าได้รับความนิยมมากขึ้นหรือไม่ นายธราธร กล่าวว่า วันนี้ถ้าลองไปเดินตลาด หรือเช็กความนิยมของประชาชน คำถามนี้ก็คงตอบได้ไม่ยาก
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่อว่า ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทางพรรคก็ได้ประเมิน โดยทีมรณรงค์การเลือกตั้งคงสรุปผลและส่งมาเป็นคำชี้แจง ข้อเสนอปรับปรุงการทำงานของพรรค เพื่อให้พรรคเข้มแข็งต่อไป อย่างไรก็ตาม ในฐานะหัวหน้าพรรคยังไม่ได้สรุปว่าความพ่ายแพ้ครั้งนี้เกิดขึ้นจากอะไร แต่ก็ผิดหวังกับผลที่ออกมา
เมื่อถามว่าถือเป็นขาลงของพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า “ยังมองไม่เห็นว่าเป็นขาลงอย่างไร แต่เราก็ไม่ได้ตกใจ อย่าลืมว่าพรรคอนาคตใหม่เข้ามาด้วยระยะเวลาที่สั้นขนาดนี้ ทำให้เราไม่สามารถคัดกรองบุคลากรที่มีความคิด ความฝันเหมือนกับพรรค ดังนั้น เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์คนที่จะเดินไปต่อกับพรรค ถือเป็นเหล็กเนื้อดีที่ไม่มีสนิม ต่อให้เขาซื้อพวกเราทั้งหมด แต่เขาชื้อปิยบุตรกับซื้อธนาธรไม่ได้ แม้ว่าจะเหลือแค่เราสองคน เราก็จะเดินหน้าต่อ และทำงานการเมืองเพื่อให้ได้สังคมตามที่เราฝันไว้”
เมื่อถามว่าจากการโหวตพ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯ และร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ส่วนตัวเห็นว่าเหล็กที่เป็นสนิมภายในพรรคมีจำนวนเท่าไร นายธนาธร กล่าวว่า ทางพรรคจะตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว ขอตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ว่า ส่วนตัวมีความภาคภูมิใจในสมาชิกของพรรค ซึ่งเรายืนยันมาตลอดว่าสมาชิกของพรรคเป็นเจ้าของพรรค
และการที่พรรคยึดโยงกับสมาชิกของพรรค ได้มีการแสดงออกแล้วเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าพรรคนี้สมาชิกมีสิทธิมีเสียง มีความฝันเหมือนกับพรรค คอยอุดหนุนและสนับสนุนการตัดสินใจให้ ส.ส.ของพรรคได้ไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนที่สมาชิกหลายคนออกมาโพสต์ว่าในพรรคมีการแบ่งชนชั้นนั้น ก็ไม่เป็นความจริง
นายธนาธร กล่าวด้วยว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (3) ที่ระบุว่าให้นำจำนวนส.ส.ที่พรรคการเมืองพึงมีพึงได้ ลบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคนั้นได้ในแบบแบ่งเขต ที่เหลือเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ แต่การเลือกตั้งที่นครปฐมไม่ได้นำคะแนนจากการเลือกตั้งซ่อมมารวม เพราะไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อมที่เกิดจากการทุจริต
จึงใช้กระดานเดิมในการคำนวณ ส.ส.พึงมีของพรรคอนาคตใหม่ยังมี 81 คน แต่ส.ส.ปัจจุบันมีเพียง 80 คน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (3) ดังนั้น จึงอยากฝากนักกฎหมายมหาชนทั่วประเทศ ช่วยไตร่ตรองดูว่า นายมานพ คีรีภูวดล ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 53 ของพรรคอนาคตใหม่ จะได้เป็นส.ส.หรือไม่ ขณะที่บางพรรคมีจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อมากกว่าจำนวน ส.ส.พึงมี
____________________________________
- อ่านข่าว : ‘ธนกร’ ขย่มปัญหาในอนาคตใหม่ ทำพ่ายเลือกตั้งซ่อมนครปฐม ชี้ปชช.กำลังสงสัย!
- อ่านข่าว : เผยผลเลือกตั้งซ่อม นครปฐม ชาติไทยพัฒนา นำลิ่ว 3.5 หมื่น ทิ้งห่างอนาคตใหม่ ปชป.รั้งท้าย
