‘จุรินทร์’ปลุกสมาชิกพรรคมุ่งทำงาน-จ่อเคาะประกันราคามันสำปะหลัง

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์-เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่โรงแรมสุดา พาเลซ สะพานควาย กรุงเทพฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เป็นประธานการประชุมกรรมการสาขาพรรค และตัวแทนจังหวัดทั่วประเทศ โดยกล่าวว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้เพื่อที่จะให้การปฎิบัติของพรรคเดินหน้าไปตามกฎหมายที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายพรรคการเมือง หรือกฎหมายการเลือกตั้ง พรรคจะต้องจัดตั้งสาขาเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การทำไพรมารีโหวต ซึ่งวันนี้หากจังหวัดไหนของพรรคที่ยังไม่มีสาขาพรรค อย่างน้อยต้องมีตัวเเทนประจำจังหวัด ซึ่งเป็นที่มาของการจัดการประชุมในวันนี้

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์เพิ่งผ่านสึนามิทางการเมืองไปสดๆ ร้อนๆ แต่มั่นใจภายใต้การบัญชาการเลขาธิการพรรค และทีมอเวนเจอร์ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคจากผลจากการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่พวกเราก็สามารถนำพรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นยืนและเดินหน้าต่อไปได้ ในระยะเวลาที่เร็วภายใต้ความร่วมมือของทุกคน ส่วนการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต5 นครปฐมเราได้กำไร และพิสูจน์ให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังอยู่ในใจของคนสามพราน สะท้อนจากสัดส่วนคะแนนที่มากกว่าเดิม จากร้อยละ 18 ในการเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค.2562 แต่เมื่อ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา กลับได้คะแนนอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 20 ซึ่งแม้จะเพิ่มขึ้นมาไม่มากแต่ถือเป็นบทพิสูจน์ข้อเท็จจริงบางอย่าง ในท่ามกลางการเเข่งขันที่รุนแรง

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มี 3 เรื่องที่พรรคได้เดินหน้าทำจนสำเร็จแล้ว คือ 1.การแต่งตั้งตำแหน่งทางการเมืองให้ผู้สมัคร ส.ส. ประธานสาขาพรรค และสมาชิกที่มีศักยภาพอย่างน้อย 80 ตำแหน่งหรือรวม 100 คนที่พรรคเปิดให้เข้ามาทำงานอย่างเป็นรูปธรรม 2.หลังพรรคมีมติเข้าร่วมรัฐบาล ได้เดินหน้าทำหน้าที่สมบูรณ์ตั้งแต่นาทีแรกตามเงื่อนไขร่วมรัฐบาล ให้แกนนำจัดตั้งรัฐบาลยอมรับการบรรจุประกันรายได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ได้บรรจุไว้ในนโยบายเร่งด่วน 12 ด้าน พร้อมมีการแถลงนโยบายที่ผ่านรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว 3.ยืนข้อเสนอเงื่อนไขให้พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต้องบริหารราชการแผ่นดิน และบริหารรัฐบาลด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

สำหรับนโยบายประกันรายได้เกษตรกรที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งการประกันรายได้พืช 5 ชนิดนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าพืชเกษตรตัวอื่นจะไม่ดูแลแต่ใช้ยาคนละขนานกันเท่านั้น สำหรับพืช 5 ชนิดนี้หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วมีความคืบหน้าเป็นอย่างยิ่ง โดยปาล์มลงมือปฏิบัติไปแล้วโดยการจ่ายเงินงวดแรกถึงมือเกษตรกรแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ส่วนเรื่องข้าวได้โอนเงินส่วนต่างให้เกษตรกรงวดแรกไปเมื่อวันที่ 15 ต.ค.เสร็จแล้ว

ส่วนเรื่องยางพาราได้ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วกำลังดำเนินการตามขั้นตอน โดยพร้อมจะโอนเงินให้แล้วเสร็จภายใน 15 พ.ย.นี้ ในส่วนของมันสำปะหลัง วันที่ 27 ต.ค. ตนจะเดินทางไปจ.อุดรธานี เพื่อประชุม 3 ฝ่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร จะไปเคาะว่าจะประกันรายได้ที่กิโลกรัมละเท่าใด จำนวนเท่าใด ต่อครัวเรือน เสร็จแล้วจะเข้ากระบวนการครม. ส่วนข้าวโพด ตนจะไปร่วมประชุม 3 ฝ่ายในวันที่ 11 พ.ย. ที่จ.เพชรบูรณ์ จะเข้าคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดแล้วไปครม. เพื่ออนุมัติต่อไป ทั้งหมดนี้คาดว่าจะโอนเงินส่วนต่างของการประกันรายได้เกษตรกรให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งท้องถิ่นด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องคู่ขนานกันไป ซึ่งเลือกตั้งท้องถิ่นมาถึงเมื่อไหร่ก็ค่อยว่ากัน เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อไหร่ต้องดูกันต่อไปว่าจะส่งใคร หรือควรส่งที่ไหน ไม่ควรส่งที่ไหนบ้าง ส่วนเรื่องส่งคนลงสมัครผู้ว่าฯกทม.นั้นได้มอบหมายให้เลขาธิการพรรคและนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการยุทธศาสตร์กรุงเทพฯ พิจารณาเบื้องต้นว่าจะตัดสินใจว่าส่งผู้สมัครคนใด และจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

เมื่อถามถึงพรรคผลักดันให้มีสมาชิกสภาเขต(ส.ข.) นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นนโยบายของพรรคอยู่แล้ว เราสนับสนุนให้มีส.ข.ได้เข้ามาทำหน้าที่ เพราะเข้าใจว่าสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) และผู้ว่าฯกทม.ไม่พอ ซึ่งกรุงเทพฯมันกว้างมาก ฉะนั้นส.ข.จะเป็นผู้ที่ลงลึกไปรับฟังปัญหาของประชาชน ส.ข.จึงมีความจะเป็นว่าต้องมี ส่วนถ้าจะมีพรรคการเมืองใดที่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เราก็พร้อมจับมือกันได้หมด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน