ป.ป.ช. ล้วง เต้ มงคลกิตติ์ นาน 4 ชั่วโมง เผย กรรมการป.ป.ช. สุภา นั่งหัวโต๊ะสอบเอง ยังขอจับ พระกริ่งปวเรศ แล้วบอก รู้สึกมีพลัง – มีบารมี

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 พ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายหลังจากนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เข้าชี้แจงทรัพย์สินพระเครื่องต่อป.ป.ช. โดยใช้เวลาให้ข้อมูลนาน 4 ชั่วโมง 30 นาที

นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ในการเข้าชี้แจงในวันนี้ มีน.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช.ทำหน้าที่เป็นประธานการไต่สวนข้อมูล โดยการชี้แจงครั้งนี้ น.ส.สุภาและเจ้าหน้าที่กว่า 10 คนสอบถามถึงความมีอยู่จริงของรายการพระเครื่องที่ตนยื่นแสดงรายการทรัพย์สินต่อป.ป.ช. ที่มาของพระเครื่องแต่ละองค์ โดยเฉพาะซักไซร้ถึงราคาพระเครื่อง

ซึ่งตนชี้แจงว่า ราคาพระเครื่อง ตนประเมินเองทั้งหมด เช่น พระกริ่งปวเรศทองคำ ราคา 50 ล้านบาท เนื่องจากราคาประเมินในตลาดพระเครื่องมีราคา 35 ล้านบาททั้งที่เป็นเนื้อนวโลหะ แต่ของตนเป็นทองคำจึงคิดว่ามีมูลค่าสูงกว่า และยังได้ย้ำว่าราคาพระเครื่องเหล่านี้มีมูลค่าทางจิตใจมากกว่าที่จะตีเป็นราคา ยืนยันว่าพระเครื่องกริ่งปวเรศเนื้อทองคำมีอยู่จริง ไม่ใช่ไม่มีตามที่เซียนพระวิจารณ์กัน

จนทำให้เกิดความขัดแย้งกันในวงการพระเครื่องว่า ก๊วนใครมีหรือไม่มี ถือเป็นความสวยงามในวงการพระเครื่อง ล่าสุดมีคนมาให้ราคาพระกริ่งปวเรศของตนในราคา 40 ล้านบาท แต่ตนไม่ปล่อย แต่หากเป็นช่วงใกล้เลือกตั้งแล้วมาให้ราคา 60-70 ล้านบาท ก็จะพิจารณาดู ส่วนด้านพุทธคุณนั้น ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆ ส่วนเรื่องที่มาของพระเครื่องแต่ละรายการนั้น ไม่ขอเปิดเผยว่าได้มาอย่างไร ถือเป็นความลับทางราชการ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามตนไม่มีใบเซอร์ (ใบรับรอง) พระเครื่องมายืนยันว่ามีที่มาที่ไปชัดเจนและเชื่อถือได้ ทั้งนี้น.ส.สุภาได้ขอดูพระกริ่งปวเรศราคา 50 ล้านบาท ถึงกับบอกว่าจับแล้วรู้สึกมีพลังและมีบารมีขึ้นมาทันที ผู้สื่อข่าวถามว่าน.ส.สุภายืนยันหรือไม่ ว่าพระกริ่งปวเรศทองคำ เป็นของแท้

นายมงคลกิตติ์ตอบว่า น.ส.สุภา พูดไปตามความรู้สึก แต่ไม่ใช่เซียนพระ นอกจากนี้ป.ป.ช.ยังซักถามถึงรายการพระเครื่องของตนอีก 200 องค์ ที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. งตนตอบชี้แจงได้หมด โดย ป.ป.ช.ขอให้ตนส่งรูปถ่ายเพิ่มเติมมาให้

การมาชี้แจงครั้งนี้ ป.ป.ช.ซักถามเรื่องพระเครื่องอย่างเดียว ไม่ได้ถามเรื่องอื่นเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเรื่องพระเครื่องนั้น ไม่มีราคากลางที่จะใช้เป็นมาตรฐานตรวจสอบ เพราะหากมีราคากลางขึ้นมาจริง จะกระทบกระเทือนไปถึง ส.ส. ส.ว. และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้งหมด

และในวันที่ 8 พ.ย. จะให้ทนายความไปยื่นฟ้องต่อศาลเอาผิดนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ข้อหาหมิ่นประมาท กรณีที่ระบุว่าการตั้งราคาพระเครื่องสูงเกินจริงของตน เป็นการฟอกเงิน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน