กรธ.ยัน อนาคตใหม่ ไล่งูเห่าพ้นพรรค ให้คำนวณ ส.ส.ใหม่ไม่ได้ ชี้ช่องฟ้องกลับ!
วันที่ 17 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายอุดม รัฐอมฤต อดีตโฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ต่อประเด็นที่การประชุมสมัยวิสามัญสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ลงมติขับ 4 ส.ส. ได้แก่ นางศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่, พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี, นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี และ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี ออกจากพรรค ว่า
การเปลี่ยนแปลงส.ส.ภายในพรรคที่มาจากการลงมติไล่ออกจากพรรคนั้น เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 พรรคสามารถมีมติให้ส.ส.พ้นจากการสังกัดพรรคการเมืองได้ และให้สิทธิส.ส.ที่ถูกลงมติให้พ้นพรรคนั้น หาสังกัดใหม่ได้ภายใน 30 วัน
แต่จะไม่มีผลให้พรรคได้การเติมเต็มส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เพราะการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่นั้นใช้เฉพาะกรณีเดียวคือ การกระทำทุจริตการเลือกตั้งภายใน 1 ปีนับจากวันเลือกตั้งทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 94 กำหนดเท่านั้น
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
“เมื่อคุณไล่ส.ส.ออกจากพรรค จะอ้างสิทธิให้คำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ไม่ได้ เพราะคุณไปไล่เขาออก ไม่ใช่การทุจริตเลือกตั้ง เมื่อส.ส.ถูกขับพ้นพรรค ไม่มีผลอะไรที่ทำให้คะแนนที่เคยได้ พรรคเดิม หรือเปลี่ยนพรรคใหม่ ไม่มีผลทั้งสิ้น อีกทั้งคะแนนประชาชนในเขตเลือกตั้ง ซึ่งทำให้ได้ส.ส. ไม่ได้บอกว่าเป็นคะแนนของพรรค
ดังนั้น อย่านำเรื่องการขับส.ส.ออกหรือการย้ายพรรค และทำให้เกิดการคำนวณคะแนนใหม่มาปนกัน หรือหากส.ส.ทั้ง 4 ไม่สามารถหาพรรคใหม่สังกัดใหม่ได้ทัน 30 วัน ต้องพ้นจากส.ส.และให้มีการเลือกตั้งใหม่ เช่นเดียวกับกรณีส.ส.บัญชีรายชื่อ หากใครถูกมติพรรคขับออกและหาสังกัดใหม่ไม่ทัน พรรคที่มีมติขับนั้น ไม่สามารถอ้างสิทธิเลื่อนบัญชีรายชื่อของพรรคได้เช่นกัน” นายอุดม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีมติพรรคที่ขับส.ส.ออกด้วยเหตุการลงมติในสภาฯ ที่ใช้ความเป็นอิสระปราศจากการครอบงำ ถือว่าพรรคทำผิดรัฐธรรมนูญและเอาผิดได้หรือไม่ นายอุดม กล่าวว่า ต้องให้ส.ส.ที่ถูกมติพิจารณาและอาจฟ้องร้องได้หากพบเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่กรณีที่เกิดขึ้นต้องพิจารณาถึงวินัยของพรรคด้วยว่า ความเห็นในสภาฯ จะมีมติร่วมกันอย่างไร
ทั้งนี้ ตนเข้าใจว่าเหตุผลที่ไล่ไม่ใช่การแหกมติ แต่คือไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ อีกทั้งประเด็นที่เกิดขึ้นไม่ใช่การลงโทษเพราะความเห็นต่างจากพรรค การใช้เสรีภาพต่อการลงคะแนนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด พึงพิจารณาถึงวินัยของพรรคด้วย เพื่อคำนึงถึงการอยู่ร่วมกัน