รุมอัด ปารีณา รุกที่ดิน เลขาฯสปก.โดนด้วย ซัดไร้มาตรฐาน-เล็งจัด วิ่งไล่ควาย!

ภาคประชาชนรุมอัดคดีรุกที่ดิน ปารีณา ซัดรัฐไม่มีมาตรฐานทางกฎหมาย ศรีสุวรรณ เตรียมฟ้อง ม.157 เลขฯสปก. ด้าน มาร์ค พิทบูล จ่อจัด “วิ่งไล่ควาย”

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ภาคประชาชนจัดเวทีสภาที่ 3 ตรวจสอบการคอร์รัปชั่นอำนาจ กรณีใครอุ้มปารีณา? โดยผู้อภิปราย ประกอบด้วย นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น, นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย, นายบุญส่ง ชเลธร นักวิชาการ และ นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล นักเคลื่อนไหวทางสังคม

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้าข่ายผิดกฎหมายชัดเจนในการบุกรุกแผ้วถางที่ดินของรัฐ ซึ่งแยกเป็น 2 ส่วน คือ ที่ดินของกรมป่าไม้ ซึ่งเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และที่ดินที่อยู่ในการครอบครองของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) การที่กรมป่าไม้มอบที่ดินให้กับสปก.ไปดำเนินการแล้ว แต่สปก.กลับละเลยไม่ได้จัดสรรที่ดินดังกล่าวให้เกษตรกร

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า แต่ปล่อยให้นักการเมือง คือ น.ส.ปารีณา หรือพ่อของน.ส.ปารีณา ไปยึดถือครอบครอง และทำประโยชน์ต่อเนื่อง กระทั่งเรื่องถูกเปิดเผยจากการแสดงบัญชีทรัพย์ หนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าได้ครอบครองที่ดินสปก. จึงเป็นที่สนใจว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายสปก. ไม่ใช่ที่จะไปมอบให้นักการเมืองเข้ามาทำประโยชน์ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงขัดกฎหมายชัดเจน เป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า จะบอกว่าหากคืนที่ดินสปก.แล้วจะไม่มีความผิดไม่ได้ ถ้าเราดูพ.ร.บ.สปก. พ.ศ.2518 มาตรา 24 กำหนดไว้ชัดเจนว่า คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม คณะอนุกรรมการ เลขาธิการ รองเลขาธิการ และพนักงานเจ้าหน้าที่ ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา

ภาคประชาชน รุมอัดคดีรุกที่ดิน ปารีณา

นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า ดังนั้น เมื่อพบเห็นหรือทราบว่า มีผู้ใดมายึดถือครอบครอบที่ดินสปก. ถือว่าเป็นผู้บุกรุกที่ดินสปก.ซึ่งเป็นโทษทางอาญาไม่ใช่โทษทางแพ่ง จึงเป็นหน้าที่ของเลขาธิการสปก. ที่ต้องดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ และเอาผิดผู้บุกรุก คือ น.ส.ปารีณา แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นเลขาธิการสปก. จะไปทำหน้าที่ของตัวเองตามกฎหมายกำหนด

“น.ส.ปารีณา เป็นนักการเมืองมาเกือบ 10 ปี พ่อก็เป็นนักการเมือง ไม่ใช่เกษตรกรจึงไม่มีคุณสมบัติใด ๆ ที่จะยึดถือครอบครองที่ดินแปลงนี้ และจะอ้างการสงวนสิทธิ์ไม่ได้ เพราะไม่ได้มีสิทธิ์มาตั้งแต่ต้น ต้องดำเนินคดีทั้งทางอาญา และแพ่ง ไม่ใช่คืนที่ดินเพียงอย่างเดียวแล้วบอกว่าจบแบบนั้นไม่ได้” นายศรีสุวรรณ กล่าว

• จ่อร้อง เลขาฯสปก. ผิดม.157

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ส่วนเลขาธิการสปก. จะทำตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ เป็นสิ่งที่ตนต้องเฝ้าติดตาม ในขั้นตอนนี้ตนยังไม่มีอำนาจจะไปทำอะไรกับเลขาธิการสปก.ได้ เว้นแต่เกินระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ตนได้ยื่นหนังสือไปอย่างเป็นทางการ คือวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้น หลังจากวันที่ 13 มี.ค.2563 เลขาธิการสปก.ไม่ดำเนินการทางคดีกับน.ส.ปารีณา และนักการเมืองอีก 12 คน ที่ครอบครองที่ดินสปก. ตนจะต้องนำคดีนี้ขึ้นร้องต่อศาลปกครอง เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า รวมทั้งอาจจะต้องร้องทุกข์กล่าวโทษทางอาญากับเลขาธิการสปก. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต่อไป และเตรียมยื่นรายชื่อนักการเมืองอีกจำนวนหนึ่งที่มีการรุกที่ผิดกฎหมายด้วย ตนคิดว่าเรื่องนี้ต้องทำให้ปรากฏว่าความเป็นธรรมทางกฎหมายในประเทศเรายังมีอยู่

นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ขอเตือนพรรคพปชร.หากมีการปกป้องนักการเมืองในพรรคของตนที่รุกที่ ตนจะตีความว่าพรรคพปชร.ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งผิดตามมาตรา 45 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ที่เป็นเหตุให้มีการยุบพรรคได้

• มาร์ค พิทบูล จ่อจัดวิ่งไล่ควาย

ด้าน นายณัชพล กล่าวว่า นักการเมืองคือคนที่ฮุบป่ามาตลอด สปก.เกิดมาจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม คือการหาทางแปรรูปป่าสงวนมาเป็นเอกสารสิทธิ์เพื่อครอบครอง ทั้งที่ที่ดินบางแปลงไม่จำเป็นต้องเป็นสปก. ทั้งนี้ หลังปฏิวัติยึดอำนาจตอนแรกประชาชนมีความสุข มีการทวงคืนผืนป่า แต่ดูไปดูมาทำเฉพาะแต่กับชาวบ้าน แต่คดีของน.ส.ปารีณา จะเป็นประวัติศาสตร์ที่พลิกโฉมหน้าคดีที่ดินในบ้านเรา

นายณัชพล กล่าวต่อว่า เพราะกรณีน.ส.ปารีณา เห็นได้ชัดว่าเป็นการเลือกปฏิบัติโดยที่ไม่มีมาตรฐาน น.ส.ปารีณาจะติดคุกหรือไม่ตนไม่สน แต่สนว่าทำอย่างไรจะให้ประเทศไทยมีมาตรฐานเดียว ถ้าน.ส.ปารีณา ไม่ติดคุก แล้วอีก 4 หมื่นกว่าคดีของชาวบ้านจะทำอย่างไร คนที่ติดคุกไปแล้วรัฐจะเยียวยา และมีคำตอบให้สังคมอย่างไร เราต้องการสร้างความเท่าเทียมให้สังคม ไม่อยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นไฟไหม้ฟาง และอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ให้สัญญากับประชาชนว่าจะเข้ามาปฏิรูปประเทศ แต่ 5 ปีผ่านมาปฏิรูปอะไรแล้วบ้าง ตนยังไม่เห็น จึงขออนุญาตใช้เวทีนี้ในการทวงสัญญา

“วิ่งไล่ลุงก็ไม่ได้ ใครที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐจะถูกดำเนินคดี แต่ใครที่อยู่ฝั่งตัวเองก็เฉย ๆ วิ่งไล่ลุงไม่ได้ แต่เดินตามลุงได้ ผมเห็นว่าไม่ค่อยเป็นธรรม ผมจึงมีการจัดวิ่งไล่ควายให้หลังจากวิ่งไล่ลุงจบหนึ่งสัปดาห์ก็มีวิ่งไล่ควายต่อที่สวนลุม แต่ว่าควายผมไม่ได้หมายความถึงใคร แต่ถ้าใครจะร้อนตัวก็ช่วยไม่ได้ ควายเป็นสัญลักษณ์ของความโง่เง่า อวดดี เชื่องช้า โบราณ” นายณัชพล กล่าว

• อัดคนอุ้ม ปารีณา

ส่วน นายบุญส่ง กล่าวว่า การรุกที่ดินของน.ส.ปารีณา มีพยานหลักฐานชัดเจน ที่ควรนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ที่ผ่านมาเราเห็นว่าผู้มีอำนาจรัฐพยายามช่วยเหลือโดยไม่สนข้อเท็จจริง เป็นไปได้อย่างไร แล้วคดีชาวบ้าน 4 หมื่นกว่าคดี กรณีจับประชาชนทั้งหมู่บ้านซึ่งเป็นคนหาเช้ากินค่ำมีเนื้อที่ไม่ถึง 10 ไร่ แต่คดีน.ส.ปารีณา 1,700 ไร่ ชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ทำอะไร บอกรังวัดใหม่เหลือ 600 ไร่ แล้วมาบอกว่าคืนแล้วไม่ผิด ตอบคำถามแบบนี้ได้อย่างไร

นายบุญส่ง กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองจะมีคนดีผสมปนเปอยู่ เช่นเดียวกับพรรคพปชร.ก็มีไม่น้อย แต่ที่ทำแบบนี้เป็นการประกาศให้โจรทั้งแผ่นดินรู้ใช่หรือไม่ ว่าหากวิ่งมาอยู่ใต้ร่มพรรคพปชร.แล้วจะปลอดภัย จะรอดทุกคดีใช่หรือไม่ ตนไม่เข้าใจว่าการคิดช่วยเหลือคน 1 คน รัฐบาลทั้งรัฐบาลพร้อมทุบตีกระบวนการยุติธรรมเลยหรือ ขอถามพรรคพปชร. ที่รู้อยู่ว่าคนของตนทำผิดกฎหมาย แล้วทำไมไม่ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

“วันนี้ที่ประชาชนไม่ประท้วงไม่ใช่ว่าเขาเห็นด้วยกับคุณ ผมไม่เห็นด้วยกับพรรคอนาคตใหม่ที่จะมีการลงถนน ผมอยากให้เขาปรับเปลี่ยน แต่ผมคิดว่าคนที่จะไปร่วมลงถนนกับเขา ไม่ใช่เพราะว่าเขาชอบ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แต่เพราะเขาทนไม่ได้กับความเหลื่อมล้ำ ความอยุติธรรม แล้ววันนั้นมันจะระเบิดเป็นความรุนแรง เพราะฉะนั้นเรียกร้องรัฐบาลว่าอย่าคิดว่ามีอำนาจมากแล้วจะทำอะไรก็ได้ วันหนึ่งข้างหน้าที่ประชาชนลุกขึ้นมาเรียกร้องให้กำจัดความไม่เป็นธรรม ความสองมาตรฐาน คุณเอาไม่อยู่หรอก แล้ววันนั้นคดีของน.ส.ปารีณา จะกลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมเหมือนกับอีก 4.6 คดี” นายบุญส่ง กล่าว

• วีระ ชี้ช่วย ส.ส.เอ๋ เดิมพันสูง

ขณะที่ นายวีระ กล่าวว่า คนที่อุ้มน.ส.ปารีณาชัดเจนมาก น.ส.ปารีณา อยู่ที่พรรคไหนคือคนนั้น ใกล้ชิดใคร เคยเข้าไปกอดใครก็คือคนนั้น ซึ่งไม่ใช่เพิ่งอุ้มน.ส.ปารีณา ตั้งแต่มีรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ก็เห็นว่ามีหลายคดีในสังคมไทยที่ไม่มีการลงโทษ อาทิ การทุจริตการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ทุจริตโครงการทหารผ่านศึก กรณี พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา บรรจุลุกชายเข้ารับราชการโดยผิดกฎหมาย คดีนาฬิกาหลายเรือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นต้น

นายวีระ กล่าวต่อว่า ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยว่าใครอุ้ม น.ส.ปารีณา คนอุ้มได้ต้องมีอำนาจรัฐ ที่มีกองทัพหนุน ที่แผ่ไปยังหลายองค์กร ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ จนไปถึงกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ คดีน.ส.ปารีณา เป็นคดีท้าทาย ถ้าจะไม่ต้องติดคุก ไม่ต้องหลุดจาก ส.ส. คิดว่ารัฐบาลเดิมพันสูง เพราะว่าต้องเอาระบบนิติรัฐมาแลก และตนบอกได้เลยว่าบ้านเมืองนี้อยู่ไม่ได้ ถ้ารัฐบาลหวังเพียงว่าเพราะเสียงปริ่มน้ำ และน.ส.ปารีณา เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันของรัฐบาล ดังนั้น จะให้หลุด ส.ส. ให้ติดคุกไม่ได้ ถือเป็นความท้าทาย ซึ่งตนประสงค์แค่กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ บังคับใช้ และลงโทษกับทุกคนอย่างตรงไปตรงมา มีมาตรฐานเดียว