“เสรี” สวน “ชวน” เสนอโละ 6 ผบ.เป็นวุฒิฯ ไม่มีหลักประกันลามถึงอำนาจอื่น ทางที่ดีอย่าแตะหมวด ส.ว. ดีกว่า ยันไม่หวงอำนาจอยู่แค่ 5 ปี หากโดนแก้ก็เหมือนโดนยึดอำนาจ
วันที่ 1 ม.ค. นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอว่าควรเชิญ ส.ว. มาร่วมรับฟังความคิดเห็นการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย เพราะมีบทบาทสำคัญ ว่า เป็นความเห็นคิดเห็นส่วนตัว ถ้าใครสนใจและทางคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เปิดโอกาสให้ไปรับฟังก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะไปรับฟัง และถ้าเป็นในฐานะส่วนตัวก็ไม่มีใครห้าม ไม่ได้ไปในฐานะตัวแทนองค์กร เพราะองค์กรเราไม่ไปร่วมด้วยอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่นายชวน เสนอให้โละทิ้งส.ว. ที่มาจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ 6 คน นายเสรี กล่าวว่า ข้อเสนอเหล่านี้ก็เสนอได้ แต่ก็ต้องดูบริบทว่ารัฐธรรมนูญเดิมที่เขียนไว้แบบนี้ต้องการให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพ 6 คนนี้ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคง เข้ามามีส่วนในการดูแลความเรียบร้อยของประเทศ
แต่ข้อเสนออย่างนี้ต้องระวัง การเสนออย่างนี้ หากส.ว.ไปรับลูกหรือเห็นด้วย อาจจะลามไปอำนาจหน้าที่อื่นของส.ว.ด้วย เพราะในการแก้ไขจะต้องมีการแปรญัตติ หากมีการสงวนความเห็นว่าไม่เอา 6 คนนี้ ก็อาจจะเปลี่ยนไปทั้งหมดได้ ส.ว.จึงต้องระวัง
การเสนอแบบนี้เป็นเพียงการเริ่มต้น เป็นก้าวแรก แต่จะมีหลักประกันอะไรว่า ในการพิจารณาหากไม่เอา 6 คนนี้ ว่าระหว่างการพิจารณาจะไม่มีโอกาสเป็นไปตามข้อเสนอ ดังนั้นส.ว.ก็ต้องระวัง อาจลามไปอำนาจหน้าที่ของส.ว.ในส่วนอื่น และการที่ผมพูดอย่างนี้ ก็ไม่ใช่เป็นการหวงอำนาจ แต่เป็นเรื่องความรับผิดชอบที่เข้ามาทำหน้าตรงนี้
“แค่ 5 ปี ถ้าทำแบบนี้ เป็นการยึดอำนาจส.ว.หรือเปล่า เพราะอาจจะมีคนอื่นแปรญัตติอย่างอื่น ยึดอำนาจหน้าที่ของส.ว.ไปหมดเลย ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในเวลา 5 ปี ถ้าจะแก้อะไร เสนอแก้อะไร อย่าแตะหมวด ส.ว. ก็จะทำงานง่ายขึ้น เพราะทั้ง6 คน อยู่แค่ 5 ปีไม่ได้ยาวนาน และผ่านมา 2 ปีแล้ว แค่5 ปี ก็แค่ตำแหน่ง พอหมดตำแหน่งก็เปลี่ยนคนอื่นมา” นายเสรี กล่าว
นายเสรี กล่าวยื่นยันว่า ถ้าการศึกษาแก้ไขรับธรรมนูญแตะ 6 คนตามข้อเสนอเมื่อไหร่ เชื่อว่าไม่ใช่แค่นี้เพราะอาจจะมีคนเสนอรูปแบบอื่นที่เปลี่ยนไป หากส.ว.รับไม่ได้งานใหญ่ก็จะเสีย ซึ่งส.ว.เราไม่ได้ปฏิเสธ แต่เราดูว่าอะไรมีความสำคัญ
อย่างไรก็ตามเห็นว่าการทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เห็นว่าการศึกษาน่าจะสำเร็จ เพราะเป็นเพียงข้อเสนอศึกษา แต่สำเร็จแล้วจะสามารถแก้ไขได้จริงหรือไม่ก็จะเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ดังนั้นอย่ามาแตะส.ว. ก็จะทำงานง่าย ควรเสนออะไรที่เป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาพรรคการเมืองจะดีกว่า
