ศรีสุวรรณ เตรียมยื่นหลักฐานเพิ่มให้ ป.ป.ช. สอบ มงคลกิตติ์-พิเชษฐ หลังประกาศเลิกเป็น ฝ่ายค้านอิสระ ชี้อุดมการณ์ทางการเมืองที่น่าสงสัย

วันที่ 7 ม.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้แสดงหนังสือคำสั่งแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้นำฝ่ายค้านอิสระ พร้อมเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา พรรคไทยศรีวิไลย์ได้แถลงออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาอยู่ในสถานะฝ่ายค้านอิสระ

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ต่อมาวันที่ 10 ก.ย. พรรคประชาธรรมไทย ได้แถลงออกจากพรรคร่วมรัฐบาลมาอยู่ในสถานะฝ่ายค้านอิสระเช่นกัน พร้อมอ้างว่าเพื่อประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาบ้านเมืองต่อฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์ จึงได้แต่งตั้งผู้บริหารฝ่ายค้านอิสระขึ้นมานั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวสมาคมฯไม่เชื่อว่าเป็นเจตจำนงที่แท้จริงตามคำแถลงของ 2 พรรคการเมืองดังกล่าว เพราะไม่มีกฎหมายฉบับใดหรือกฎหมายรัฐธรรมนูญใดให้อำนาจไว้ หากแต่อาจเป็นการขัดต่อ ม.106 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ให้เฉพาะหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น และอาจขัดต่อ พรป.พรรคการเมือง 2560 และขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 ม.5 ม.160 ประกอบ ม.115 รวมทั้งมาตรฐานทางจริยธรรมอีกด้วย ซึ่งสมาคมฯได้ยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวน สอบสวนไว้แล้วเมื่อวันที่ 6 พ.ย.62 ที่ผ่านมา

“ดังนั้น การที่นายมงคลกิตติ์ และนายพิเชษฐ ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวยุบฝ่ายค้านอิสระเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าต้องการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างรวดเร็ว และผิดพลาดน้อยที่สุด และต้องการเป็นกำลังเสริมในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนต่อไป ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี และเมื่อครั้งเกิดสภาล่ม 2 วันติดได้โพสต์เฟซบุ๊กเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบอีกด้วย แต่พอเข้าร่วมงานเลี้ยงกระชับมิตรมีเมนูหูฉลามเป็นสื่อกลางเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา กลับออกมาแสดงท่าทีกลับเข้าร่วมรัฐบาลอีกครั้ง พร้อมกับการตั้งกลุ่มกิจสังคมใหม่ขึ้นมาเพื่ออะไร ซึ่งชี้ให้เห็นถึงอุดมการณ์ทางการเมืองที่น่าสงสัย” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปยื่นเพิ่มเติมในคำร้องเดิมที่เคยยื่นไว้เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวน สอบสวนและวินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายและขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ต่อไป โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันที่ 8 ม.ค.นี้ เวลา 10.30 น.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน