ปิยบุตร เดือดจัด แฉ กกต. กระเหี้ยนกระหือรือ ยัดความผิดเพิ่ม หวังยุบอนาคตใหม่

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ม.ค. ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่(อนค.) กล่าวถึงคดีเงินกู้ว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องจาก กกต. ให้ยุบพรรคอนค. ในคดีกู้เงินโดยให้เวลายื่นเอกสารภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันนี้ แต่ติดวันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงขอขยายเวลา โดยศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ขยายเวลาถึงวันที่ 27 ม.ค.

เราตั้งข้อสังเกตว่า กกต.มีมติยื่นคำร้องให้ศาล ยุบพรรคโดยไม่แจ้งข้อกล่าวหา จนทำให้พรรคไม่สามารถเตรียมข้อมูลเพื่อให้ปากคำได้ ล่าสุด ตนได้เอกสารการพิจารณาในชั้นของกกต.มาทั้งหมด เมื่อศึกษาเอกสารจึงรู้ว่า กกต.น่าจะทำผิดกฎหมาย ข้ามขั้นตอนอย่างชัดเจน

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า จุดเริ่มต้นคดีมาจากนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องกล่าวหานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค บริจาคให้พรรคเกิน 10 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายความผิดมาตรา 66 ต่อมากกต. ได้เรียกสอบพยาน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดพิจารณาเสร็จแล้ว จนวันที่ 13 ส.ค. 2562

คณะกรรมาการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 13 มีมติเอกฉันท์ยกคำร้อง เหตุผลมีการกู้เงินจริง พรรคการเมืองกู้เงินได้ และในอดีตพรรคอื่นก็กู้กัน และยังระบุว่าเงินกู้ไม่ใช่รายได้ แต่เป็นหนี้สิน จึงไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 66 ดังนั้น เมื่อยกคำร้องเรื่องนี้ก็ต้องจบได้แล้ว

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายปิยบุตร กล่าวว่า แต่ปรากฏว่ากกต.ไม่จบ เพราะกกต.ตัดสินใจส่งให้สำนักสืบสวนสอบสวนเพื่อไต่สวนต่อ แล้วสืบสวนกันประมาณ 1 เดือน คณะสืบสวนดังกล่าวก็มีมติยกคำร้อง และเมื่อเรื่องมาถึงกกต. ทางกกต.ส่งเรื่องให้อนุฯ โดยมีความเห็น 3 ต่อ 2 ให้ยกคำร้อง

จากนั้น กกต.มีมติส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญขอให้ยุบพรรค อนค. ตนตั้งข้อสังเกตว่า กกต.ไม่แจ้งข้อกล่าวหากับพรรค ทั้งที่เรื่องนี้มันถูกยกคำร้องไปแล้วตั้งแต่คณะกรรมการชุดที่ 13 และทุกคณะไต่สวนดูแค่มาตรา 66 ตามคำร้อง แต่อยู่ดีๆ กกต.มีมติเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2562 แถมมาตรา 72 โดยเป็นความผิดถึงขั้นยุบพรรค

“แบบนี้จะไม่ให้ผมคิดได้อย่างไรว่า คุณกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะยุบพรรคอนค. ถึงต้องเติมความผิดมาตรา 72 มาให้ เพราะมันเป็นมาตราเดียวที่อ้างถึงการยุบพรรค ทั้งที่เหตุของเรื่องนี้เริ่มต้นที่มาตรา 66 ถึงแม้ กกต.จะอ้างว่าเป็นคนละคำร้องกัน

แต่ผมทราบว่าในเอกสารที่กกต. ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นคำร้องมาตรา 66 ทั้งหมด เรียกง่ายๆว่าเอาผลผลิตของกระบวนการไต่สวนของมาตรา 66 ไปเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญ แล้วบวกมาตรา 72 เข้าไปด้วย ที่ผ่านมาเราสู้กันตามมาตรา 66 อยู่ดีๆ โผล่มาตรา 72 ตอนสุดท้าย เหมือนมีคนมาบอกว่าต้องใช้อันนี้ถึงจะเข้าเป้า” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า เอกสารที่ได้มา ตนเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าเป็นเอกสารจริง หาก กกต.จะบอกว่าไม่ใช่เอกสารจริงก็ไม่เป็นไร ให้ไปสู้กันในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ ตนจะขอให้ศาลเปิดกระบวนการไต่สวน เรียกพยานเอกสารชุดนี้เข้ามาพิจารณาในศาล จะได้รู้ว่าสุดท้ายแล้ว กกต.ทำผิดขั้นตอนจริงหรือไม่

ถ้าทำผิดจริง เราจะฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งมีความผิดถึงขั้นเข้าคุก ถึงเวลาแล้วที่จะหยุดใช้องค์กรอิสระมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะที่ผ่านมาความน่าเชื่อถือของกกต. มันต่ำตั้งเริ่มแรกที่ไปเชื่อมโยงกับคสช.แล้ว

องค์กรอิสระต้องอิสระจากคณะรัฐประหารและผู้มีอำนาจทางการเมือง ไม่ใช่อิสระจากประชาชน ผมอยากให้กกต.ทั้ง 7 คนไปส่องกระจกแล้วถามตัวเองว่ามีจิตสำนึกได้หรือยังว่ากำลงทำอะไรอยู่ อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ กกต.ที่รู้สึกอดอัด และทนกับพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้ ออกมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์” นายปิยบุตร กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน