ฝ่ายค้าน รุมฉะ งบดับไฟใต้ ซ่อนโครงการ ล้างสมองเด็ก พันล้านบาท

งบดับไฟใต้ / เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงดึก การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระสอง ต่อเนื่องเป็นวันที่สาม

ช่วงการพิจารณามาตรา 37 งบรายจ่ายสำหรับแผนบูรณาการการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ ซึ่งกมธ.วิสามัญฯปรับแก้ไข โดยลดงบประมาณ จากเดิมที่เสนอขอ 10,865 ล้านบาท เหลือเพียง 10,641 ล้านบาท

ทั้งนี้กมธ.ฯ เสียงข้างน้อย และส.ส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขออภิปรายเพื่อปรับลดงบประมาณ พร้อมอภิปรายเหตุผลประกอบ โดยเน้นการปรับลดงบประมาณที่จัดสรรเพื่อใช้กับเยาวชนและเด็กในสถานการศึกษาที่ไร้ตัวชี้วัดและรายละเอียดที่ชัดเจน

พร้อมแสดงความกังวลว่าจะเป็นงบประมาณเพื่อล้างสมองเด็กซึ่งส่อขัดหลักการสิทธิมนุษยชนที่คุ้มครองกับเด็กตามองค์การสหประชาชาติกำหนดไว้ รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยรายละเอียดของโครงการเพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ความจริงที่ถูกต้องรวมถึงงบประมาณส่อสาธารณะ

โดย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย สงวนความเห็นเพื่อปรับลดงงบประมาณในแผนบูรณาการ ที่ชื่อว่าโครงการเพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ความจริงที่ถูกต้อง ซึ่งบูรณาการโครงการ 15 หน่วยงาน มูลค่ารวม 1,293 ล้านบาท

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยแบ่งเป็น 431 ล้าานบาท มีหน่วยรับงบประมาณ 11 หน่วยรับงบประมาณ อาทิ กองทัพบก, กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสถานบันการศึกษา สถาบันการอาชีวศึกษา

ขณะที่งบประมาณอีกส่วน 862 ล้านบาท โดยมีส่วนที่จัดสรรให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน.) และหน่วยงานสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคระกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกรมการปกครอง

ซึ่งวางกลุ่มเป้าหมายกับเยาวชน อายุ 1-5 ปี ซึ่งในชั้นกมธ.ฯ สอบถามว่าความจริงที่ถูกต้อง คืออะไร และมีกระบวนการอย่างไร กลับไม่ได้รับคำตอบ แต่ทราบเป้าหมายว่าทำให้คะแนนโอเน็ตดีขึ้น ไม่ทราบว่าเป็นความจริงวิชาอะไร และสาระอะไร

“ผมขอให้นิยามงบประมาณส่วนนี้ว่า งบล้างสมอง พันล้านบาท ทั้งนี้หากทหารที่ติดอาวุธทำกิจกรรมใดๆ กับเยาวชน ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน เชื่อว่าอาจทำให้ปัญหาชายแดนภาคใต้ลุกลาม และประเทศไทย อาจถูกขึ้นบัญชีดำจากองค์การสหประชาชาติ เพราะถือว่าทหารที่ติดอาวุธซึ่งเข้าไปยังสถานศึกษาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนจะถือว่าเข้าข่ายละเมิดสิทธิเด็กอย่างรุนแรง ดังนั้นหากส.ส.อนุมัติงบประมาณส่วนนี้ต้องร่วมรับผิดชอบ ดังนั้นผมขอตัดงบประมาณโครงการดังกล่าว วงเงิน 862 ล้านบาท” นายวิโรจน์ กล่าว

ด้านนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ อภิปรายปรับลดแผนงานแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พบว่ามีงบประมาณรวมกันมากถึง 5หมื่นล้านบาท

อาทิ งบเบี้ยเลี้ยงกำลังพล เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่กำหนดไว้ในหน่วยงาน กอ.รมน. 4,000 ล้านบาท ซึ่งขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการซ่อนงบประมาณและเล่นแร่แปรธาตุในหน่วยงานต่างๆ

ขณะที่ตัวชี้วัดคือลดความรุนแรงซึ่งเป็นเพียงปลายเหตุไม่ใช่การลดที่ต้นเหตุของปัญหา ที่ชาวบ้านระแวงซึ่งมีทหารเข้าไปยังหมู่บ้านต่างๆ เป็นต้น ขณะที่การจัดสรรงบประมาณ กว่า 800 ล้านบาท ที่ใช้กับเยาวชน ตนมองว่าเป็นการผลักให้เยาวชนเป็นศัตรูตั้งแต่เด็ก

ขณะที่น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายขอปรับลดงบประมาณ 13.6 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของโครงการเสริมประสิทธิภาพข่าวกรองและโครงการเผยแพร่ความจริงที่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตามในการประชุมกมธ. เพื่อปรับลดงบประมาณส่วนของการแก้ปัญหาพื้นที่ภาคใต้ พบว่าตัดลดงบประมาณส่วนของการชี้แจงและทำความเข้าใจ รวมถึงอบรมในหลักสิทธิมนุษยชน คิดเป็นร้อยละ 70เปอร์เซ็นต์ของงบที่เสนอจัดสรร

ซึ่งตนกังวลว่าจะทำให้การแก้ปัญหาไฟใต้ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามในรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวขอเจอรอบต่อไปในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ทั้งนี้นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกมธ.ฯ เสียงข้างมาก ชี้แจงว่า กมธ. และอนุกมธ.ฯ ได้ระวังในการพิจารณา โดยในโครงการเพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ความจริงที่ถูกต้องนั้น ตามแผนงานไม่ใช่กระทำกับเด็ก กมธ.ฯ คำนึงถึงการไม่ละเมิดสิทธิเด็ก แต่จะดำเนินโครงการกับผู้ที่จะเข้าไปให้ความรู้กับเด็กอีกชั้น ยืนยันว่าเป็นโครงการที่ไม่กระทบหรือละเมิดสิทธิเด็กแน่นอน

หลังพิจารณาเสร็จที่ประชุมลงมติ โดยเสียงข้างมาก 243 เสียงเห็นชอบกับร่างที่กมธ.แก้ไข ไม่เห็นด้วย54เสียง งดออกเสียง 134 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน