เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเลือกตั้งประเทศฝรั่งเศสว่า ขอแสดงชื่นชมและยินดีกับประชาชนชาวฝรั่งเศสที่กำลังจะได้ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ คนที่ 25 คือนายเอ็มมานูเอล มาครง ซึ่งอายุน้อยที่สุด เพียง 39 ปี โดยไทยและฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน ปีนี้เข้าปีที่ 161 ซึ่งแน่นอนว่าการมีผู้นำคนใหม่ของฝรั่งเศสจะเป็นอีกโอกาสหนึ่งของประเทศไทย ที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้งสองประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการส่งสาร์นแสดงความยินดีไปยังประธานาธิบดีคนใหม่เร็วนี้

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ในส่วนของความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนของสองประเทศนั้น สามารถแบ่งได้ 2 ระดับคือ ระดับทวิภาคี ที่ผ่านมาการดำเนินการส่วนนี้ก็มีความต่อเนื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เคยพบปะหารือกับประธานาธิบดีคนก่อนในหลายเวที และความสัมพันธ์ในระดับพหุภาคีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (อียู) ก็จะส่งเสริมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ถือเป็นโอกาสดีของไทยในการยืนยันเจตนารมณ์ในการดำเนินนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับมิตรประเทศบนพื้นฐานสำคัญคือ ความไว้วางใจระหว่างกัน ผลประโยชน์ร่วมกันและเคารพซึ่งกันกัน ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของประเทศไทยภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์

เมื่อถามว่า นโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศสจะมีผลกระทบอะไรกับไทยหรือไม่ พล.ท.วีรชน กล่าวว่า เบื้องต้นตามนโยบายที่มีการหาเสียง ประธานาธิบดีคนนี้มีนโยบายเดินสายกลาง ยังคงจะให้ฝรั่งเศสอยู่กับอียูต่อไป ซึ่งเราต้องไปวิเคราะห์อีกครั้ง แต่การมีนโยบายสายกลางคงเป็นเรื่องที่ดี ยังไม่มีอะไรเจาะลึก โดยเฉพาะกับไทยว่าต้องเป็นอะไรอย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน