“นิพิฏฐ์” แฉยิบ “ส.ส.พัทลุง ภท.” เสียบบัตรแทน ผ่านพ.ร.บ.งบฯ 63 เปิดหลักฐานมัด เป็นประธานวันเด็ก แต่มีชื่อโหวต ตั้งแต่มาตรา 39 จนโหวตวาระ 3 หวั่นงบฯ โมฆะ ด้าน “ฉลอง” รับเสียบบัตรคาไว้จริง แต่ไม่รู้ใครกดแทน

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. เวลา 11.10 น. ที่รัฐสภา นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค และอดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากการตรวจสอบการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาทของสภาผู้แทนราษฎร

พบว่ามีส.ส.กดบัตรแทนกันในที่ประชุมสภาวันที่ 10 ม.ค. เวลาประมาณ 20.50 น. โดยพบว่ามีส.ส.เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน คือ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ม.ค. เวลาดังกล่าว พบว่านายฉลอง เดินทางไปยังสนามบินหาดใหญ่ แต่กลับปรากฏชื่อร่วมเป็นองค์ประชุม

และยังมีชื่อนายฉลอง ร่วมลงมติในร่างพ.ร.บ.งบฯ ตั้งแต่มาตรา 39 ว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในวันที่ 10 ม.ค. ปิดประชุมสภาฯ เวลา 1.07 น. ซึ่งถือเป็นวันที่ 11 ม.ค.แล้ว ก่อนกลับมาเปิดประชุมสภาฯอีกครั้ง เช้าวันที่ 11 ม.ค.

พบว่าเวลา 11.10 น. ในการลงมติมาตรา 40 ว่าด้วยงบประมาณสำหรับแผนงานบูรณาการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ปรากฏชื่อนายฉลอง ร่วมลงมติอีกด้วย

เช่นเดียวกับเวลา 17.34-17.38 น. มีชื่อนายฉลอง ลงมติเห็นชอบวาระ 3 และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ทั้งๆ ที่ในวันที่ 11 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเด็กแห่งชาตินั้น มีหลักฐานภาพถ่ายทางเฟซบุ๊กของเทศบาลตำบลอ่างทอง จังหวัดพัทลุง ระบุว่า นายฉลองมาเป็นประธานพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ

จากนั้นในวันเดียวกัน นายฉลองยังไปเปิดงานวันเด็กแห่งชาติที่ อบต.ชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง อีกด้วย และที่สำคัญ นายฉลองเดินทางกลับ กทม.จากสนามบินนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 13 ม.ค. เวลา 11.55 น. ซึ่งแสดงให้เห็นว่านายฉลองไม่ได้อยู่สภาฯ ในวันดังกล่าว

“อาจอ้างว่าเป็นการเสียบบัตรทิ้งไว้ที่เครื่องลงคะแนน แต่อยากจะอธิบายว่าโดยปกติเมื่อสภาฯปิดประชุม เจ้าหน้าที่สภาจะดึงบัตรออกในวันนั้น หรือไม่ก็ตอนเช้าก่อนประชุมเพื่อเคลียร์ระบบ ไม่เช่นนั้นจะเซ็ตระบบไม่ได้ จึงสงสัยว่าเมื่อปิดประชุมไปแล้ว และกลับมาประชุมอีกครั้ง ทำไมถึงมีชื่อนายฉลองมาโหวตในช่วงดังกล่าวได้” นายนิพิฏฐ์ กล่าว

นายนิพิฎฐ์ กล่าวอีกว่า การลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ตั้งแต่มาตรา 39 เป็นต้นไป ย่อมไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีการเสียบบัตรแทนกัน แต่จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯหรือไม่ เป็นหน้าที่ของส.ส.

เรื่องนี้สภาฯต้องตรวจสอบต่อไปและหาทางไม่ให้กฎหมายฉบับนี้มีปัญหาเหมือนกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 3-4/2557 กรณีการออกพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท และเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ ตนมาในฐานะประชาชนคนหนึ่ง เพราะตนก็อยู่รัฐบาล ไม่อยากทำให้รัฐบาลมีปัญหา

“ผมตรวจสอบการทำงานของส.ส. กว่าท่านจะได้เข้ามามีการใช้เงินเยอะนะ แล้วเรื่องก็ยังค้างอยู่ที่กกต.ด้วย ที่ผมไปร้องว่ามีการซื้อเสียงเหลือเรื่องนี้เรื่องเดียว ขอฝากถึง กกต.ด้วยว่าท่านกลั่นกรองคนเข้าสภาอย่างไรให้มาทำหน้าที่อย่างนี้ในสภา แล้วจะกระทบต่อประเทศชาติ” นายนิพิฎฐ์ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าการออกมาพูดเรื่องนี้จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ในการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่าตนตรวจสอบเฉพาะผู้แทนฯ คนเดียว เมื่อเห็นว่าผู้แทนฯ ทำผิดกฎหมาย จะไม่พูดเลยก็ไม่ได้ ส่วนส.ส.คนอื่นเท่าที่รู้ก็มี แต่ไม่ตรวจสอบเพิ่มเติม และหากสภาฯ จะเริ่มต้นดำเนินการตรวจสอบและเรียกตนไปให้ข้อมูลก็ยินดีให้ความร่วมมือ ยืนยันว่าเอกสารทั้งหมดที่นำมาแถลง เป็นเอกสารเปิดเผย สื่อมวลชนสามารถตรวจสอบได้

เมื่อถามว่าในฐานะนักกฎหมายมองว่า หากร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ เป็นโมฆะจะส่งผลอย่างไร นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ความเห็นของตนอาจไม่ตรงกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ก็ได้ ต้องไปถามท่าน แต่ส่วนตัวเห็นว่าต้องทำให้ไม่เป็นโมฆะ

โดยต้องกลับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่เคยวินิจฉัยว่ากระบวนการร่างกฎหมายเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเป็นโมฆะ แต่เรื่องงบฯ ต้องทำให้ข้อเท็จจริงต่างจากเรื่องเงินกู้ ตนคิดอย่างนี้ แต่ไม่อยากพูดเพราะอาจขัดแย้งกับนักกฎหมายคนอื่น คือต้องทำให้ชอบ ถ้าทำอย่างนี้ก็ต้องมีปัญหา

ต่อข้อถามว่าเกรงหรือไม่ว่าฝ่ายค้านจะหยิบยกเรื่องนี้ไปโจมตี นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้น ตนแค่ทำหน้าที่เท่านั้น ส่วนใครจะเอาไปเป็นประโยชน์ก็เป็นเรื่องที่ว่ากันต่อไป ตนในฐานะนักกฎหมายมองว่าเรื่องนี้มีทางออก 2-3 ทาง ที่ทำได้ แต่พรรคภูมิใจไทยต้องให้ความร่วมมือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวของนายนิพิฏฐ์ ปรากฏว่านายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ลงมาพบกับนายนิพิฏฐ์ พร้อมกล่าวชื่นชมว่า นายนิพิฏฐ์กัดไม่ปล่อย และยอมรับว่านายฉลอง อาจไม่รอบครอบ

ขณะที่นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า ได้ออกจากรัฐสภาช่วงค่ำวันที่ 10 ม.ค.จริง และได้เสียบบัตรทิ้งไว้ แต่ไม่ได้มอบหมายให้ใครกดแทน ตนต้องรีบกลับมาเพื่อเตรียมการรับศพญาติ ภายหลังจากประสบอุบัติเหตุ 5 ศพที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งต้องประสานนำศพกลับบ้าน

เมื่อถามว่าตามปกติทุกเช้า เจ้าหน้าที่ห้องประชุมสภาจะต้องดึงบัตรที่เสียบค้างไว้ออกทั้งหมด เพื่อเคลียร์ระบบ นายฉลอง กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจ แต่เสียบบัตรทิ้งไว้จริงๆ


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน