เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. กล่าวถึงกรณีนายโจชัว หว่อง แกนนำนักศึกษาเข้าร่วมกับการชุมนุมชาวฮ่องกงประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีน ถูกกักตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิขณะเดินทางมาถึงไทยเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมงานปาฐกถา 6 ตุลาฯ ประจำปีนี้ ในหัวข้อ “การเมืองของคนรุ่นใหม่” ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 6 ต.ค.นี้ ว่าตามปกติ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) มีหน้าที่สกรีนคนเข้า-ออกประเทศอยู่แล้วตามหน้าที่ โดยหากขอความร่วมมือในด้านต่างๆ อาทิ อาชญากรรมข้ามชาติ บุคคลต้องห้ามที่มี แบล็คลิส จากมิตรประเทศ ที่ได้มีสนธิสัญญาไว้ ก็จะประสานความร่วมมือเรื่องข้อมูลบุคคลกับต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา และสามารถประสานความร่วมมือกันโดยตรงระหว่างหน่วยงานได้เอง เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่สามารถใช้ดุลยพินิจตามหน้าที่ปกติ เฉพาะของหน่วยงานรับผิดชอบตรงก็คือ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

“ถ้าบุคคลที่เดินทางเข้ามาในประเทศนั้นๆ มีประวัติเกี่ยวข้องการทำผิดกฎหมาย หรือวัตถุประสงค์การเข้ามาไม่ชัดว่า ท่องเที่ยว หรือทำงานหรือดำเนินกิจกรรมผิดไปจากวัตถุประสงค์ การขอเข้ามา ก็มีโอกาสถูกปฏิเสธ จากทางเจ้าหน้าที่ได้”พ.อ.วินธัย กล่าว

โฆษก.คสช. กล่าวต่อว่า ทางคสช.ยังไม่มีข้อมูลเรื่องรัฐบาลจีนขอความร่วมมือมาหรืออาจเป็นไปได้ว่าอาจเป็นการประสานขอความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานด้านสตม.ที่มีการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลถึงกันกับหลายๆประเทศอยู่แล้ว ตามแนวทางการด้านนี้

ส่วนการเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ของหน่วย.สตม.นั้นในหลายกรณีอาจจำเป็นต้องมีข้อจำกัดบ้างเหมือนประเทศอื่นๆ ด้วยลักษณะเฉพาะงานโดยเฉพาะข้อมูลด้านการข่าวที่คาบเกี่ยวความมั่นคง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน