ล็อกเป้าเชือดรายคน! พรรคฝ่ายค้านถกปม ซักฟอกรัฐบาล แต่ไร้เงาเศรษฐกิจใหม่

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 ม.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมร่วมกันระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยมีหัวหน้าพรรคทุกพรรค ประธานคณะกรรมการประสานงาน(วิป)ฝ่ายค้าน ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยเข้าร่วม ทั้งนี้ น่าสังเกตว่าไม่มีตัวแทนจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) มาร่วมประชุมแต่อย่างใด

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจและวางตัวบุคคลที่จะอภิปรายให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ ข้อมูลแน่น ชัดเจน ยืนยันสนามซักฟอกนี้ไม่ใช่สนามฝึกพูด มั่นใจฝ่ายค้านพร้อมยื่นญัตติในวันที่ 29 ม.ค.นี้เป็นต้นไป แต่หากจะเลื่อนไป 1-2 วันก็ไม่กระทบกับกรอบเวลา เชื่อว่าวันนี้จะได้ข้อยุติเรื่องถ้อยคำในร่างญัตติที่จะยื่น

ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า ฝ่ายค้านทำงานร่วมกันในการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมีกรอบอภิปรายความล้มเหลวของรัฐบาล ซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยกว่าประเด็นทุจริต หรืออาจสำคัญมากกว่า โดยกรอบใหญ่ที่ฝ่ายค้านหารือกันคือกรอบเศรษฐกิจ กรอบปัญหาสังคมอื่นๆ ทิศทางการทำงานของประเทศ และกรอบการคอร์รัปชั่น

ซึ่งพรรคอนาคตใหม่จะอธิบายในทิศทางดังกล่าว เชื่อมั่นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะทำให้ประชาชนเห็นความไม่มีประสิทธิภาพและความล้มเหลวในการทำงานของรัฐบาล

ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนและส.ส.ไม่ว่าฝ่ายใด ร่วมกันตรวจสอบและพิจารณาสิ่งที่ฝ่ายค้านนำเสนอ หากฟังอย่างเปิดใจและไม่ใช้อคติ เชื่อว่าสังคมจะเห็นคล้อยในทิศทางเดียวกันว่าไม่สามารถไว้วางใจให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศต่อไปได้

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวว่า การบริหารประเทศของรัฐบาลจะต้องมองถึงประชาธิปไตยในรัฐธรรมนูญที่กล่าวไว้ ตนมองว่ารัฐบาลนี้ไม่ค่อยสนใจรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย รวมถึงการออกแบบรัฐธรรมนูญในส่วนของส.ว. โดยพรรคฝ่ายค้านจำเป็นต้องอภิปรายเรื่องจริยธรรมของรัฐมนตรี

ยืนยันว่ามีหลักฐานจับต้องได้ เพราะมีประชาชนส่งมาให้จำนวนมาก รวมถึงเรื่องการปฏิรูปที่มีแต่ตัวหนังสือ ในเชิงปฏิบัติไม่คืบหน้า โดยเฉพาะการปฏิรูปการเมืองซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ แต่กลับล้มเหลว ดังนั้น พรรคฝ่ายค้านจึงจำเป็นต้องรวบรวมสิ่งที่นายกฯ และคณะมายื่นอภิปรายครั้งนี้

ด้าน นพ.เรวัต วิศรุตเวช รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) กล่าวว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคจะอภิปรายพุ่งเป้าที่ปมปัญหาการถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกฯ และครม. โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และจะอภิปราย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ด้วย

รวมถึงกรณีคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ได้เลือกตัวเองเข้ามาดำรงตำแหน่งส.ว. และให้ส.ว.ทั้ง 250 คนโหวตเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ไม่ชอบธรรม ไม่มีประเทศใดในโลกทำกัน นอกจากนี้ยังมีประเด็นรัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน โดยเฉพาะโครงการอีอีซี ที่มีการใช้อำนาจตามมาตรา 44

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า รัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นกลุ่มเดียวกับที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติ หรือจะเป็นตัวเลข 5+4 หรืออาจจะรวม 6-9 คนบวกลบกันไป เพราะขณะนี้มีข้อมูลใหม่ที่จะประกอบการอภิปรายเข้ามาด้วย

อาทิ เรื่องมาตรการแก้ปัญหาฝุ่น pm 2.5 และการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ปัญหาการทุจริต และการออกกฎหมายงบประมาณ รวมถึงปัญหาในสภา ที่สะท้อนภาวะผู้นำในการแก้ปัญหาของประเทศ

ส่วนที่ผลสำรวจโพลต้องการให้อภิปรายรัฐมนตรีทั้งคณะ นายสุทิน กล่าวว่า พร้อมรับฟัง แต่การอภิปรายรัฐมนตรีทั้งคณะ มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน ซึ่งการอภิปรายนายกฯ ก็หมายรวมถึงการอภิปรายครม.ทั้งคณะแล้ว การอภิปรายทั้งคณะจะกระทบกับคนทำงานดี ส่วนการอภิปรายเฉพาะตัวบุคคลจะสามารถชี้ชัดการทำงานได้มากกว่า ว่าใครคือจุดอ่อนที่ต้องสกัด หรือใครคือจุดแข็งที่ต้องรักษาไว้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน