“หมอธีทัชฐ์” ยื่นลาออกพปชร. แนะฝ่ายค้านซักฟอกคนมีคดี ชี้ให้เห็นรัฐบาลมีคนทุจริต
วันที่ 29 ม.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสัตวแพทย์ธีทัชฐ์ เกียรติลดารมย์ ผู้สมัครส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือขอลาออกการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐต่อกกต. โดยน.สพ.ธีทัชฐ์ กล่าวว่า การลาออกตนไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกับผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ แต่อยากมาสร้างมิติใหม่ทางการเมืองเพื่อที่จะเป็นที่พึ่งให้ประชาชน ต้องการไปสร้างการเมืองใหม่แนวทางใหม่ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขโดยแท้จริง
และเป็นประชาธิปไตยในพรรคการเมืองไม่ใช่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หรือถูกคนใดคนหนึ่งครอบคลุมกุมอำนาจอยู่คนเดียวกลายเป็นระบอบประชาธิปไตยจอมปลอม ซึ่งตนอยากสร้างมิติใหม่ทางการเมืองอยากมาทำการเมืองใหม่ให้เป็นพรรคการเมืองเอที่จะขับเคลื่อนระบอบประชาธิปไตยให้มันเดินหน้าไปจะได้ไม่เกิดช่องให้ฝ่ายที่เป็นอำนาจนิยมหรือฝ่ายถืออาวุธเข้ามาทำการรัฐประหารล้มล้างระบบประชาธิปไตยมันจะทำให้ประเทศถอยหลังลงคลอง
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ทั้งนี้ ตนพร้อมที่จะเป็นผู้นำให้กับคนรุ่นใหม่หากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ แต่จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะเทิดทูนสถาบันไม่ทุจริตคอรัปชั่น แต่ถ้าหากไม่ถูกยุบก็เชื่อว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนขอออกมาเป็นฝ่ายค้านอิสระนอกสภา ซึ่งจะตรวจสอบการทำหน้าที่ทั้งฝ่ายค้านรัฐบาล และฝ่ายค้านในสภา
จึงขอให้นักการเมืองทั้ง 2 ฝ่าย เลิกใส่ร้ายป้ายสีกัน เลิกทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง และอย่านำการเมืองออกมานอกสภา เพราะจะทำให้ประชาชนเอือมระอา ซึ่งจะเป็นการเปิดช่องว่างให้ฝ่ายอำนาจนิยมเข้ามาแสวงหาอำนาจ โดยการรัฐประหารซึ่งจะเป็นการทำลายล้างระบอบประชาธิปไตย
น.สพ.ธีทัชฐ์ กล่าวว่า ตนพร้อมให้ข้อมูลฝ่ายค้านในสภาเพื่อนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ตนยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะล้มล้างรัฐบาล แต่หากรัฐบาลไม่ดีเราก็ต้องมีการตรวจสอบรัฐบาล และถ้าฝ่ายค้านไม่ดีตนก็จะตรวจสอบฝ่ายค้านเหมือนกัน
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นมองว่าพรรคเพื่อไทยเดินยุทธศาสตร์ผิด เนื่องจากไปมุ่งโจมตีกลุ่มรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ทั้งที่ควรจะเล่นงานรัฐมนตรีที่มีคดีความอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และคดีความในศาลเป็นรายคน เพื่อชี้ให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้มีคนไม่ดีอยู่ในรัฐบาล และเป็นส.ส.ในสภา
