FootNote ภาวะผู้นำ บริหารจัดการ วิกฤต ประสาน “คำพูด” กับ “การทำ”
ไม่ว่ากรณีการแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา จากมหานครอู่ฮั่น ไม่ว่ากรณีการเข้าบริหารจัดการกรณี จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา สังหารผู้บังคับบัญชาแล้วบุกเข้าปล้นปืนของทางราชการแล้วยึดห้างสรรพสินค้า
มักนำไปสู่สภาพการณ์ “เปรียบเทียบ” ในการบริหารจัดการและแก้ปัญหาอันแหลมคมยิ่ง
เป็นการเปรียบเทียบระหว่างของแต่ละ “สถานการณ์”
เมื่อเรื่องเกิดขึ้นที่มหานครอู่ฮั่นภาพการเข้าไปของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็โดดเด่น เมื่อเรื่องเกิดขึ้นที่นครราชสีมาการเข้าไปของ พล.ต. อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ก็โดดเด่น
พลันที่มีตัวละคร “อื่น”เข้าไปขอแจม ขอมีส่วนร่วมด้วยภาพแห่งการ “เปรียบเทียบ”ก็ตามมาโดยอัตโนมัติ
สถานการณ์หนึ่งๆย่อมมี “พระเอก”ได้เพียงคนหนึ่งเท่านั้น
กล่าวสำหรับที่มหานครอู่ฮั่น การปรากฏตัวของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยังไม่สามารถมีใครสามารถลบเลือน บทบาทและความหมายในเชิงการบริหารลงได้
กลายเป็นเสียงชมเชยในความเฉียบขาด ยืนหยัดและร่วมเป็นร่วมตายอยู่กับมวลชนอย่างแนบแน่น
ในเมืองไทยได้นำไปสู่การบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาของอดีตนายกรัฐมนตรีบางคน ไม่ว่าในกรณีช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชา ไม่ว่าในกรณีสึนามิ ไม่ว่าในกรณีไข้หวัดนก
เป็นความเฉียบขาดที่ประชาชนซึ่งตกอยู่ในชะตากรรมอันเลวร้ายไม่มีวันลืม และนึกถึงทุกครั้งที่เกิดสถานการณ์อันเลวร้ายขึ้นไม่ว่าในจุดใดของโลก
เป็นความประทับใจเหมือนที่ชาวโลกมองเห็นบทบาทของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่มหานครอู่ฮั่น
จากสถานการณ์ไวรัส โคโรนา ที่มหานครอู่ฮั่น มายังสถานการณ์คลี่คลายกรณี ”จ่าคลั่ง”บุกยึดห้างสรรพสินค้าโคราช สะท้อนความเป็นจริงพื้นฐานอย่างเด่นชัด
สถานการณ์บางอย่างอาจใช้วิธีวิทยาในแบบพีอาร์ประชาสัมพันธ์เป็นจุดบุกเบิกนำร่อง
แต่ในที่สุดแล้วก็ต้องผ่านกระบวนการปฏิบัติจริง
มีแต่จะต้องลงมือปฏิบัติจริง มีแต่ผ่านกระบวนการวางแผนและลงมือปฏิบัติจริงเท่านั้นจึงจะสร้างจุดประทับใจ
เมื่อท่านพูด คนจะฟัง เมื่อท่านลงมือทำ คนจะเชื่อและศรัทธา