“บิ๊กโด่ง” ถกคปต.ส่วนหน้านัดแรก ขับเคลื่อนงานทั้ง 7 กลุ่มให้รวดเร็วกระชับการแก้ปัญหารายงานตรงนายกฯ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ย้ำจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนให้กำลังใจคณะทำงาน 13 คน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ต.ค. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะคณผู้แทนพิเศษรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.ส่วนหน้า) เปิดเผยก่อนการประชุมคณะกรรมการผู้แทนพิเศษรัฐบาลฯ ว่า ในวันนี้จะมีการแบ่งงานในการทำงานของทั้ง 13 คน โดยให้ดูใน 7 กลุ่มงาน ตามความเหมาะสม เช่น การรักษาความปลอดภัยและการแสวงหาทางออกโดยสันติวิธี โดยจะให้นายภาณุ อุทัยรัตน์ เป็นเลขาธิการ ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวจะทำหน้าที่บูรณาการ และประสานงานกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภ.4สน.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

โดยไม่มีอำนาจใดๆ ในการสั่งการ แต่สามารถให้ข้อแนะนำและกระชับช่องว่างของการทำงานของหน่วยงานในพื้นที่ พร้อมรายงานตรงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี เรื่องสามเหลี่ยมมั่นคง อย่างไรก็ตาม มีความเชื่อมั่นคณะกรรมการทั้ง 13 คน เพราะมีประสบการณ์ในการทำงานในพื้นที่มาก่อน แม้เกษียณอายุราชการแล้วก็ตาม อยากให้ทุกคนให้กำลังใจคณะทำงานทั้ง 13 คน

พล.อ.อุดมเดช ยังกล่าวถึงการประชุมในวันนี้ เพื่อเน้นการทำงานให้รู้ในรายละเอียดของงานทั้งหมด จากนั้นจะลงพื้นที่เพื่อติดตามงาน ในแต่ละกลุ่มงานโดยมีสถานที่ตั้งอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย (พล ร.15) จ.ปัตตานี โดยจะใช้เจ้าหน้าที่ในการทำงานตามความจำเป็นเท่านั้น จึงมีจำนวนไม่มาก ซึ่งก็จะติดตามผลการปฏิบัติงานในทุกสัปดาห์และจะประเมินผลในทุกเดือน และเป็นทุก 3 เดือนหรือ 6 เดือนและ 1 ปีต่อจากนี้ เรามีการกำหนดตัวชี้วัดว่าจะดำเนินงานอย่างไรต่อไป เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์

รมช.กลาโหม กล่าวต่อว่า การทำงานของ 7 กลุ่มงาน ว่าอาจจะมีข้อติดขัดบ้าง ดังนั้น จะให้แต่ละกลุ่มงานไปจัดลำดับความเร่งด่วนในการทำงาน เชื่อว่าทุกคนตั้งใจที่จะทำงานให้สัมฤทธิ์ผล และแก้ไขอุปสรรคของแต่ละกลุ่มงานได้ พร้อมย้ำผู้แทนพิเศษรัฐบาลทั้ง 13 คนส่วนใหญ่จะปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นหลัก ยกเว้นบางคนที่มีภารกิจทำงานในส่วนกลาง อาทิ พล.อ.สุรเชษฐ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน