วันที่ 24 พ.ค. ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “การขับเคลื่อน Thailand 4.0 ในภาคใต้” ตอนหนึ่ง ว่า ดีใจ ที่เดินทางมาที่จังหวัดสงขลา และมีโอกาส ปาฐกถา ไทยแลนด์ 4.0 ในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ให้ประเทศไทยเกิดความทันสมัย ให้กับนักศึกษา อาจารย์และประชาชน เข้าร่วมรับฟังมากกว่าพันคน รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน และนำผลการศึกษาวิจัย เข้ามาพัฒนา เดินหน้าประเทศตามยุทธศาสตร์ประเทศที่ตั้งไว้
ซึ่งต่างจากอดีตที่เน้นทำงานตามนโยบายพรรค จึงมักเกิดปัญหาความขัดแย้งตลอดเวลา ประเทศไทยก็ติดกับดักเป็นประเทศรายได้ปานกลาง มายาวนาน วันนี้ต้องเปลี่ยนแปลงให้ได้ ไม่ใช่บริหารประเทศ เพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือเพียงพื้นที่ที่เลือกเข้ามา วันนี้รัฐบาลจึงได้จัดสรรเงินงบประมาณลงพื้นที่ให้มากพอสมควร และแบ่งการพัฒนาประเทศเป็นภาคและความจำเป็น เพื่อให้เกิดความพัฒนา และความร่วมมือให้ได้บนความแตกต่างที่มีอยู่ ทั้งนี้ความขัดแย้งในสังคมเป็นเรื่องปฎิเสธไม่ได้ ทุกคนจึงต้องร่วมมือกันพัฒนาประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยต้องคำนึงถึงเรื่องการขาดแคลนแรงงาน จากที่ไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และที่สำคัญ เราต้องเริ่มเรื่องที่ทำให้เกิดความปรองดอง สมานฉันท์ อะไรที่ทำได้ทำไปก่อน เพราะเรื่องความขัดแย้ง การทะเลาะกันทำให้ประเทศไทยเป็นไทยแลนด์ 4.0 ยาก วันนี้เราเปิดกระบวนการรับฟังและยินดีรับการตรวจสอบ
“รัฐบาลนี้ก็ทราบอยู่แล้วว่ามีที่มาอย่างไร แต่ก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา ทั้งสะสางเรื่องเดิมและเริ่มต้นเรื่องใหม่ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง เพื่อถึงเป้าหมายคือปลายทาง โดยเฉพาะการศึกษา ที่ต้องพัฒนา ให้เกิดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาประเทศให้มากขึ้น ลดการจ้างงานจากต่างประเทศในสาขาที่ประเทศไทยขาดแคลน ขณะที่ระบบการศึกษา ต้องสอนเรื่องกระบวนการคิด ต่อยอด ทางความคิด โดยเฉพาะ ด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ นักวิจัย วิศวกรรม ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ยาก และหาผู้เรียนยาก ไม่ใช่แค่คิดเรื่องความเป็นประชาธิปไตยเพียงอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นประเทศจะเป็นไทยแลนด์ 4.0ได้อย่างไร สุดท้ายก็จะกลับไปเป็นประเทศยากจนเหมือนเดิม”
ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งของการพบปะกับผู้ที่มารับฟัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอร้องบรรดานักเรียนนักศึกษาว่าอย่าออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองกันมากนักเพราะพวกที่ออกมาเคลื่อนไหวมักจะเรียนไม่จบ หรือไปจบเอาในช่วง 8 ปีเนื่องจากต้องไปทำกิจกรรมต่างๆ ขอให้กลับไปทำและคิดในเรื่องของตัวเองคือเรื่องการเรียนและการศึกษา รวมทั้งทำเพื่อครอบครัวจะดีกว่า เพราะถ้ามัวแต่เสียเวลากับการออกมาเคลื่อนไหวการแสดงความคิดเห็นต่างๆก็จะทำให้เกิดผลกระทบต่อการเรียนได้ อย่างไรก็ตามความเห็นต่าง หรือการเรียกร้องต่างๆสามารถที่จะทำได้แต่ขอให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญซึ่งก็มีการบัญญัติไว้อย่างชัดเจนในเรื่องของสิทธิเสรีภาพ แต่ก็อย่าลืมว่ากฎหมายไม่ได้มีแค่เฉพาะรัฐธรรมนูญอย่างเดียวยังมีกฎหมายลูกกฎหมายความมั่นคงกฎหมายการจราจรพี่ต้องดูเป็นองค์ประกอบร่วมกัน
จากนั้นเวลา 13.00 น. นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมตลาดเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นตลาดจำหน่ายผักและผลไม้ที่เกษตรกรสามารถนำเข้ามาจำหน่ายถึงผู้บริโภคได้โดยตรงโดยนายกรัฐมนตรี ได้พบและพูดคุย เกษตรกรและแม่ค้านำผลไม้มาจำหน่าย โดยขอให้ทุกคนใส่ใจคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และสร้างมูลค่าให้กับสินค้า จนสามารถสร้างรายได้ สร้างชีวิตให้มีความสุข ซึ่งเมื่อมีความสุขมีรายได้ แล้วก็ควรจะมีน้ำใจ และไม่คดโกงด้วย
“ขายสินค้าแบบนี้ขายของแบบนี้รวยแน่แน่รวยอย่างนี้มีความสุขไม่ใช่รวยแล้วติดคุกมันมีความสุขที่ไหนต้องหนีไปต่างประเทศ ดังนั้นเราประกอบอาชีพเช่นนี้แล้วรวยก็จะมีความสุขอย่างแน่นอน แต่รวยแล้วต้องมีน้ำใจไม่ใช่รวยเงินแล้วไม่มีน้ำใจอย่างนี้เรียกว่าโง่ “พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีแวะชิมด้วงมะพร้าวหรือด้วงสาคูสินค้าขึ้นชื่อ ของชาวปักษ์ใต้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายหนอนด้วงไหมของภาคเหนือแต่ตัวใหญ่กว่า โดยระบุว่าอร่อย อย่างไรก็ตามระหว่างทางได้มีแม่ค้าขายอาหารทะเลสดนำปูทะเลขนาดใหญ่มามอบให้นายกรัฐมนตรี ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับยิ้มพร้อมกล่าวหยอกล้อว่า “ให้กินปูเลยหรือขอบคุณมาก” นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังร่วมเต้นเพลง Chicken dance ซึ่งเป็นเพลงที่แม่ค้าใช้ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสนุกสนาน
