“จิรายุ” ท้าประชามติ ถามชาวบ้านเอา “ประยุทธ์” เป็นนายกฯ อีกหรือไม่ สุดอึ้งทึ่งเสียวเจอวิกฤตไวรัส-สั่งขายหน้ากากอนามัย
ท้าประชามติ – เมื่อเวลา 18.15 น. วันที่ 26 ก.พ. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ในช่วงเย็นมีเด็กนักเรียนออกมาเรียนร้องที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งถ้านายกฯ ปฏิรูปประเทศตามที่สัญญาไว้เมื่อปี 2557 ก็คงมีแต่คนสรรเสริญเพราะที่ผ่านมา แต่นายกฯ กลับใช้เงินไป 16 ล้านล้านบาท โดยที่ไม่มีการปฏิรูปอะไรเลย
นายกฯ บอกจะสร้างความปรองดอง แต่สุดท้ายได้แค่ตุ๊กตาน้องเกี่ยวก้อย ทำอะไรไม่เคยสัมฤทธิ์ผล จึงอยากเสนอให้มีการทำประชามติอีกครั้ง ใช้เวลาสัก 1 เดือนว่าจะเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับเข้ามาเป็นนายกฯ อีกหรือไม่ ตนว่าน่าทำมาก จะได้เป็นประโยชน์จะได้รู้ว่าประชาชนรักท่านเท่าไร ไม่เอาท่านเท่าไร ใช้บัตรสองใบ เอาหรือไม่เอาจะได้รู้ว่าเขาอยากเปลี่ยนหรือไม่
ที่พูดแบบนี้เพราะอุตสาหกรรมตกหนักมาก โรงงานปิดตัว ขณะที่มีรัฐมนตรีบอกไปเสิร์ชหางานตามกูเกิล ช่างพูดง่ายเหลือเกิน ประเทศกำลังเป็นโรคไส้ติ่ง เดี๋ยวปวดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ถึงเวลาไส้ติ่งก็เหมือนประเทศแตกเมื่อไรก็ตายเมื่อนั้น
นายจิรายุ อภิปรายว่า ส่วนเพจไอโอที่สนับสนุนท่านว่าเสียสละเพื่อชาติ แต่ท่านกลับทำประเทศเป็นหนี้สาธารณะถึง 7 ล้านล้านบาท เวลาชาติเจอวิกฤตอย่างกรณีโควิด-19 ตนไม่เคยเจอผู้นำคนไหนสั่งขายหน้ากากอนามัย สุดอึ้งทึ่งเสียว 10 ชิ้น 25 บาท สุดท้ายก็เจอคนด่าทั้งประเทศ รัฐบาลนี้มีแต่แจก แบบนี้ตนก็เป็นรัฐมนตรีได้
วันนี้ประเทศไทยมีคนจนเพิ่มขึ้นจาก 2556 จำนวน 4 ล้านคน ปี 2562 มีคนจน 14 ล้านคน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เคยพูดเมื่อปี 2556 ว่าไม่อยากให้ประเทศไทยเป็นอย่างฟิลิปปินส์ แต่ปัญหาของประเทศตอนนี้เป็นเหมือนฟิลิปปินส์เมื่อ 40 ปีที่แล้ว โดยที่มีผู้ศึกษาแล้วพบว่าเกิดจากการบริหารประเทศที่ผิดของผู้นำ การฉ้อราษฎร์บังหลวง ผู้นำไร้กึ๋น
นายสมคิดเคยพูดว่าหากการเมืองไม่สามารถสร้างศรัทธาจากประชาชนได้ จะเรียกว่าเป็นภาวะ Disrupted Society ตอนนั้นพูดเหมือนตาเห็น แต่ตอนนี้รัฐบาลไม่ทำอะไร วันนี้ผู้นำกำลังขับรถพาพวก 70 ล้านคนไปข้างหน้าโดยที่กดคันเร่งเต็มเหนี่ยว พอทักโชเฟอร์ก็โวยวาย ตนจึงไม่อาจไว้วางใจท่านได้อีกต่อไป
