เปิดเบื้องลึก แฉแหลก รอยร้าวพรรคฝ่ายค้าน ศึกอภิปรายรัฐบาล

เปิดเบื้องลึก แฉแหลก รอยร้าวพรรคฝ่ายค้าน ศึกอภิปรายรัฐบาล

รายงานข่าวจากวงประชุม 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ระบุว่า สถานการณ์ความไม่พอใจในการจัดวางคิวการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเริ่มคุกรุ่นมาตั้งแต่ช่วงวันที่ 2 (25 ก.พ.) ของการอภิปราย ซึ่งอดีตพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ขอเวลาช่วงไพรม์ไทม์ คือ เวลา 20.00 น. ให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยอนาคตใหม่ย้ำหลายครั้ง ว่าเป็นการอภิปรายที่รับรองว่าเด็ดจริงๆ แต่ไม่มีการจัดการที่ดี ทำให้กว่าที่นายวิโรจน์ จะได้ขึ้นอภิปรายก็เป็นเวลาเกือบ 23.00 น.

อย่างไรก็ตาม 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ปิดห้องประชุมร่วมกันในวันที่ 3 (26 ก.พ.) ของการอภิปราย เวลาช่วงก่อนเที่ยง โดยเชิญ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ฝ่ายค้าน มาร่วมประชุมด้วยเพื่อตกลงกันในเรื่องนี้ แต่ทางอนาคตใหม่ระบุว่าไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย เพราะต้องรอการจัดคิวอภิปรายจากวิปพรรคเพื่อไทย

โดยการจัดคิวการอภิปรายขึ้นกับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายสุทิน ประธานวิปฝ่ายค้านเป็นหลัก ที่มักไปจัดคิวในห้องวอร์รูม 301 ที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาตร์ มานั่งหัวโต๊ะวอร์รูมจัดคิวส.ส.ขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจในทุกวัน

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

รายงานข่าวแจ้งว่า ตลอดช่วงวันแรกมาถึงช่วงสายของวันที่ 3 คิวการอภิปรายออกมาทีละ 1-2 ชื่อ จนประธานสภาต้องกล่าวบนบัลลังก์ว่า ขอให้ฝ่ายค้านส่งคิวชื่อคนอภิปรายให้ด้วย และไม่เคยมีมาก่อนที่มาส่งให้ทีละ 1-2 ชื่อเช่นนี้ อย่างไรก็ตามในการประชุมแกนนำ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้าน จึงบอกให้เอารายชื่อทั้งหมดที่จะอภิปรายขึ้นกระดาน พร้อมกำกับเวลาที่จะใช้ในการอภิปรายไว้ด้วย

ทั้งนี้ ในการประชุม อนาคตใหม่ได้ขอให้อภิปรายในส่วนของนายกฯ ให้จบภายในวันที่ 3 เพราะวันที่ 4 ( 27ก.พ.) จะได้ใช้เวลาที่เหลืออภิปรายรัฐมนตรีคนอื่นๆ ซึ่งที่ประชุมก็เห็นด้วยอย่างนั้น แต่เอาเข้าจริง ชื่อที่เคยกางร่วมกันในวงประชุมก็ปรับเปลี่ยนอีก

และช่วงบ่าย พรรคเพื่อไทยก็ตั้งโต๊ะแถลงในห้อง 301 ซึ่งเป็นวงใหญ่ ระบุจะอภิปรายนายกฯ ถึงเที่ยงวันที่ 4 (27ก.พ.) ซึ่งไม่ได้ตรงกับข้อตกลงที่ทำไว้ในห้องประชุม 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านก่อนหน้านี้ ทำให้อนาคตใหม่ต้องหักคอ ใช้แทคติกเอาชื่อร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มาอภิปรายพ่วงกับนายกฯเข้าไปจึงได้อภิปรายรัฐมนตรีคนอื่นบ้าง

รายงานข่าวระบุอีกว่า ในการอภิปรายวันที่ 4 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิถต์ พรรคเพื่อไทย จะต้องอภิปรายเป็นคนแรก ซึ่ง 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่เข้าใจว่าทำไม นายศรัณย์วุฒิจึงใช้เวลาอภิปรายคนเดียวยาวนานถึง 3 ชั่วโมง สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยล้มเหลวในการจัดการ ไม่สามารถเบรกคนของตัวเองได้ ผู้อภิปรายทั้งที่รู้ว่าเกินเวลามาเป็นชั่วโมงก็ไม่แคร์คนอื่น ทำให้ภาพที่ออกมาเหมือนปล่อยให้นายศรัณย์วุฒิ อภิปรายไปเรื่อยๆ

นอกจากนี้ที่แกนนำวิปรัฐบาลบอกว่า คิดว่าจะตกลงกับรัฐบาลให้ขยายเวลาออกไปได้นั้น คิดได้ แต่ควรเคารพเวลาที่ตกลงร่วมกันก่อน การขอเวลาเพิ่มเติมค่อยเกิดขึ้นทีหลัง ไม่ใช่ใช้เวลาของสมาชิกพรรคอื่นไปก่อน หวังลมๆ แล้งๆ ที่จะขอเวลาเพิ่มแล้วเอามาแบ่งให้ทีหลังเช่นนี้

นอกจากนี้พรรคร่วมยังตั้งข้อสังเกตว่าคนของพรรคเพื่อไทยตลอด 3 วัน จะได้ขึ้นอภิปรายในช่วงเวลาไพรม์ไทม์เสมอ และหากมีการสรุปอภิปรายปิดในเวลา 19.00 น.จริง ตามที่วิปฝ่ายค้านไปตกลงกับวิปรัฐบาล นายสุทินซึ่งเป็นผู้สรุปกล่าวปิดอภิปรายก็จะได้ขึ้นพูดในช่วงเวลาดังกล่าวในวันที่ 4 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการอภิปราย

รายงานข่าวจากพรรคเล็กร่วมฝ่ายค้าน ระบุว่า ที่ประชุมพรรคร่วมตั้งแต่เริ่มแรกได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อไปเจรจากับรัฐบาลทั้งหมด 5 คน แบบคละพรรค แต่เวลาที่มีการเจรจากับรัฐบาล เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน มักไปเจรจาโดยไม่ได้แจ้งคณะกรรมการคนอื่นๆ ซึ่งหลายครั้งที่ไปตกลงกับรัฐบาล เช่น เรื่องเวลา หรือเรื่องการไม่ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยอภิปรายเรื่องถวายสัตย์

โดยกรรมการคนอื่นๆ ที่มาจากพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่รู้ และการให้คิวกับพรรคเล็กร่วมอภิปรายก็ไม่ชัดเจน ตัวแทนบางพรรคเกือบไม่ได้ขึ้นพูดในเวลาที่ตกลงไว้ หรือหัวหน้าพรรคบางพรรคเตรียมตัวมาอภิปรายก็ถูกเลื่อนให้อภิปรายอีกวันหนึ่งโดยไม่ทราบเหตุผล