“พิธา” นำทัพ 55 ส.ส.อดีต อนค. เข้าพรรคใหม่ เชื่อตอนนี้ “ป่าล้อมเมือง”

เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 28 ก.พ. ที่ชั้น 3 ห้องวอร์รูมอาคารรัฐสสภา นายพิธา ลิ้มเจิรญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำกลุ่มส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พร้อมด้วย นายคารม พลพรกลาง นายธีรัจชัย พันธุมาศ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมกันแถลงปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

นายพิธา กล่าวว่า พวกเรายังยืนยันในเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ถึงความล้มเหลว ความไร้ประสิทธิภาพ ความไม่ชอบธรรม ความไม่เหมาะสมและคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้ง 6 คน ทั้งในสภาและนอกสภา ถึงแม้กระบวนการจะขรุขระไปบ้าง

แต่ที่พวกเรายืนยันเข้าร่วมโหวตก็เพื่อทำหน้าที่ส.ส.ที่ประชาชนเลือกมา ยืนยันว่าการทำงานที่ผ่านมาเต็มที่ทุกมิติ และเชื่อว่าประชาชนได้รับประโยชน์ ถึงแม้จะเป็นเสียงข้างน้อยแต่เรายังสู้ในสภาเต็มที่ทุกคนทั้งส.ส.และทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายพิธา กล่าวต่อว่า ในแง่ผลลัพธ์ เรายังเชื่อว่าการโหวตให้รัฐมนตรีแต่ละคนไม่เท่ากัน น่าจะส่งผลถึงการปรับครม. แต่เรื่องนอกสภา ในระยะกลางตนคิดว่ามันเกิดสถานการณ์ป่าล้อมเมืองแล้ว เพราะ 2-3 วันที่ผ่านมาเป็นการส่งต่อข้อมูลข้อเท็จจริง ความไม่ชอบมาพากล ความล้มเหลว และไร้ประสิทธิภาพไปให้ประชาชนได้รับทราบถึงปัญหาของบ้านเมือง ปัญหาของระบบ ทำให้คนตื่นตัวมากขึ้น

ส่วนที่ตัดสินใจเข้ามาโหวตในสภาทั้งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติไม่ร่วมโหวตนั้น ตอนนั้นเราออภิปรายนอกสภา จึงไม่ทราบมติพรรคร่วม และประชาชนบอกให้เราเข้ามาโหวต

เมื่อถามว่าแนวทางจะเป็นอย่างไรต่อไป นายพิธา กล่าวว่า พวกเรายังเหนียวแน่นอยู่ทั้ง 55 คน ยังยึดในแนวทางอุดมการณ์เดิมของอนาคตใหม่ เมื่อจบเรื่องการอภิปราย ในสัปดาห์นี้เราจะเดินทางร่วมกันไปต่างจังหวัด เพื่อถอดบทเรียนสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และสร้างพรรคให้เข้มแข็งมากกว่าเดิม

ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านในภาพใหญ่ก็ต้องทำงานร่วมกันต่อไป ส่วนเรื่องปลีกย่อยก็ต้องมาถอดบทเรียนซึ่งกันและกัน ความเคารพยังมีอยู่ ที่สำคัญคือประชาชนจับตาดูอยู่ และเชื่อว่าประชาชนรู้ว่าอะไรเป็นอะไร พวกเราพยายามทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นเป็นรายบุคคล ไม่ได้จำกัดที่เวลาอย่างเดียว แต่ยอมรับว่ามีรัฐมนตรี 2 คนที่แทบจะไม่ถูกอภิปรายในสภา

ส่วนได้เคลียร์ใจกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า ก็พูดคุยกัน และหาทางให้ทำงานร่วมกันได้ในอนาคต

ด้าน นายคารม กล่าวว่า ในการอภิปรายวันที่ 27 ก.พ. มีข้อสังเกตว่ามีเวลาเหลือ 5 ชั่วโมง ถ้าจัดสรรไม่ยึดกับเงื่อนเวลาและเปิดให้ฝ่ายค้านได้อภิปราย บรรยากาศจะดีกว่านี้มาก แต่เมื่อรัฐบาลเลือกเดินทางนี้ เสียงข้างมากยึดกุมสภาไว้ ก็ต้องหารือว่าจะมีช่องทางทำอย่างไรได้บ้าง

ส่วนการทำงานร่วมกับฝ่ายค้านต้องเดินต่อไป แต่ต้องมีหลักว่าแม้เราจะเป็นพรรคใหม่ก็ต้องให้เกียรติกัน และอยากขอร้องพรรคใหญ่ว่าต้องให้เกียรติกัน การทำงานในสภา ฝ่ายค้านเสียงน้อยอยู่แล้ว ถ้าเราอยู่ในพื้นฐานของการให้เกียรติ เราก็เดินต่อไปได้

นายคารม กล่าวว่า ทั้งนี้ เราจะติดตามในกรณี น.ส.พรรณิการ์ วานิช เปิดเผยเรื่องการทุจริต 1MDB ซึ่งส่งผลกระทบกระเทือนรัฐบาล รวมทั้งกรณี น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เปิดเผยการขอซื้อตัวส.ส.ก็ถูกข่มขู่ และไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว โดยจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้อยากฝากไปยังรัฐบาลให้ช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย

นายคารม กล่าวอีกว่า ส่วนที่ส.ส.ย้ายไปสังกัดพรรคอื่น เป็นการแสดงจุดยืนทางการเมืองว่าจะไปตรงไหน และต้องขอบคุณส.ส.ทั้ง 55 คนที่ยังอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย เราจะเดินไปข้างหน้าในพรรคที่เราจัดสรรขึ้น ส่วนมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องหรือไม่ ตนตอบไม่ได้ ประชาชนต้องติดตาม

ส่วนคุณสมบัติของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ซึ่งต้องคำพิพากษาของศาลรัฐนิวเซาส์เวล ออสเตรเลียนั้น มีช่องทางตรวจสอบคือศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราได้เสนอสู่สาธารณะ และเป็นเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯจะพิจารณา และสังคมต้องท้วงติงว่าสมควรเป็นรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่

ด้าน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวถึงพล.อ.ประวิตร ได้รับคะแนนไว้วางใจสูงสุดว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจ คิดว่าถ้ามีโอกาสได้อภิปรายในสภา เสียงที่พล.อ.ประวิตรได้รับอาจน้อยกว่านี้ก็ได้

ส่วนกังวลหรือไม่หากเกิดการฟ้องร้องเพราะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเคยติดคุกมาแล้ว โดนมาสารพัด เลยจุดคำว่ากลัว และคิดว่าเรากินเงินเดือนประชาชน เราต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่ ไม่เช่นนั้นเราตอบตัวเองไม่ได้ว่าอะไรคือคุณค่าหรือสิ่งที่ต้องทำ หากจะฟ้องร้องก็เป็นสิทธ์ แต่ก็เป็นสิทธิ์ของตนที่จะเสนอความจริง และหากพิสูจน์กันด้วยความจริง ตัวท่านเองอาจจะไม่อยากฟ้องตนก็ได้

ขณะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตรองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แจ้งว่าในวันที่ 4 มี.ค. อดีตพรรคอนาคตใหม่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงขอบคุณส.ส.ฝ่ายค้านทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค ทำให้มีส.ส.เหลืออยู่ 65 คน ในจำนวนนี้มี 9 คน สมัครเข้าพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนอีก 1 คน คือนายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร คาดว่าจะย้ายไปพรรคชาติไทยพัฒนา จึงทำให้ยอดสมาชิกส.ส.เหลืออยู่ตอนนี้ทั้งสิ้น 55 คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน