ทวี จี้รัฐบาลยุติปฏิบัติการไอโอ-สร้างเกลียดชัง เย้ย‘บิ๊กตู่’แจงซักฟอกไม่ได้

ทวี / เมื่อวันที่ 1 มี.ค. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “การโฆษณาชวนเชื่อเพื่อให้เกิดการแตกแยกของบุคคลในชาติเป็นอันตรายอย่างยิ่งในการอยู่ร่วมกัน”

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2563 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

คำอภิปรายได้กล่าวถึงภารกิจที่เรียกว่า “ไอโอ” หรือปฏิบัติการข่าวสาร โดยนำข้อมูลพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน ปัจจุบันหากเข้าโลกออนไลน์จะพบบัญชีรายชื่อปลอม เพจปลอม โดยเอารูปตัวการ์ตูน รูปต่างๆที่ไม่ใช่ตัวเองมาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ และออกปฏิบัติการคุกคามประชาชน ที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการวิจารณ์รัฐบาล

โดยการขุดประวัติบุคคลนั้นมาโพสต์ประจานเหมือนพฤติกรรมการล่าแม่มด ใช้ถ้อยคำเกลียดชังด่าทอประชาชน เข้าไปโพสต์ข้อความด่าทอนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ สร้างความเกลียดชัง

ตามข้อมูลที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายวิโรจน์ฯ ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ถูกอภิปรายฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไม่สามารถตอบหรือมีหลักฐานชี้แจงได้ว่า ทำไมรัฐถึงได้ดำเนินการ ,ดำเนินการไปเพื่ออะไร และเมื่อพบการกระทำแล้วรัฐได้แก้ไขปัญหาอย่างไร

เพราะเป็นเรื่องที่ผิดทั้งกฏหมายอาญาและกฏหมายแพ่ง กับเป็นการกระทำที่ “ละเมิดสิทธิมนุษย์ชน” ตาม ‘กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง’ หรือ ICCPR (Internationals Covenant on Civil and Political Rights) ซึ่งตาม ICCPR ข้อ 20 คือ

“1. การโฆษณาชวนเชื่อใดๆ เพื่อการสงคราม เป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมาย

2. การสนับสนุนให้เกิดความเกลียดชังในชาติ เผ่าพันธุ์ หรือศาสนา ซึ่งยั่วยุให้เกิดการเลือกปฏิบัติ การเป็นปฏิปักษ์ หรือการใช้ความรุนแรง เป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมาย”

ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีกับสนธิสัญญา ICCPR มานานคือมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 30 ม.ค.2540 แล้ว การคุ้มครองสิทธิของบุคคลที่กำหนดให้รัฐเคารพและประกันสิทธิของบุคคล ไม่ให้มีการโฆษณาชวนเชื่อใด ๆ เพื่อสร้างความเกลียดชังขึ้น และที่สำคัญอย่างอย่างยิ่งรัฐต้องไม่เป็นผู้กระทำเสียเองเพราะนอกจากไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้วยังถูกติดตามตรวจสอบสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศจากสหประชาชาติอีกด้วย

ส่วนตัวเห็นว่ารัฐบาลต้องยุติการดำเนินการที่สร้างความเกลียดชัง การแบ่งแยกในหมู่ประชาชนทำให้เกิดความแตกสามัคคีในสังคมโดยด่วน ไม่ว่าผู้กระทำการนั้นจะเป็นประชาชน หรือรัฐ ต้องไม่ให้มีการกระทำเกิดขึ้นที่ถือเป็นความผิดที่ร้ายแรง

พร้อมทั้งบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้กระทำทุกฝ่ายที่เท่าเทียมกันไม่เลือกปฏิบัติ และสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการไปพร้อมกันคือ การส่งเสริมสนับสนุนการอยู่ร่วมกันของบุคคลทุกคนในสังคมที่แม้มีความแตกต่างหลากหลายทางชาติพันธุ์ วัฒนธรรม อุดมการณ์และความเชื่อที่ต่างกันสามารถดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพใน ‘สังคมพหุวัฒนธรรม’ ตามหลักการพื้นฐานประชาธิปไตย คือ “การยอมรับนับถือในคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคล ความเสมอภาคและเสรีภาพในการดำเนินชีวิต” เป็นสำคัญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน